กระทรวงการคลัง ย้ำคุณสมบัติคนที่จะสมัครสมาชิกเข้าร่วมโครงการ “คนละครึ่ง” เพื่อรับสิทธิ์ใช้จ่ายเงินสูงสุดวันละ 150 บาท รอบเก็บตก ในวันที่ 11 เดือนพฤศจิกายนนี้

ปัจจุบัน นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลังเผยออกมาว่า โครงงานคนละครึ่งจะเปิดให้พลเมืองลงทะเบียนเข้าร่วมโครงงานอีกรอบ ในวันที่ 11 พ.ย. 2563 ระหว่างเวลา 06.00-23.00 น. ผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com จนกว่าจะครบปริมาณ
•
ปตท.ลุ้น “โจ ไบเดน” ผลักเศรษฐกิจโลกฟื้น ปี 64 ฝ่าลงทุน 8 หมื่นล้าน

•
เปิดแผนแม่บทเฉพาะกิจสู้วัววิด ภายใต้ที่มีความสำคัญในการรบชาติตั้งเป้าหมาย “ล้มแล้วลุกไว”

•
เปิดผลกำไรปาท่องโก๋การบินไทย

ดังนี้ ขอย้ำว่าคนที่สามารถลงทะเบียนได้ควรจะเป็นผู้ไม่เคยลงทะเบียนเข้าร่วมโครงงานคนละครึ่ง มาก่อน หรือเป็นผู้เคยลงทะเบียนแต่ว่าไม่สำเร็จจึงถือเป็นคนที่ไม่เคยได้รับสิทธิ์เข้าร่วมโครงงาน ซึ่ง ณ วันที่ 9 พ.ย. 2563 มีสิทธิเหลืออยู่จากผู้ไม่ผ่านการตรวจสอบสิทธิและผู้ไม่เริ่มใช้สิทธิ์ข้างในกำหนด 14 วัน ที่จะนำมาเปิดให้พลเมืองลงทะเบียนเป็นปริมาณ 2.3 ล้านสิทธิ์
สำหรับคุณสมบัติของคนที่สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงงาน ควรเป็นพลเมืองเชื้อชาติไทยอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปในวันลงทะเบียน มีบัตรประจำตัวประชาชน และไม่เป็นผู้มีบัตรผลประโยชน์แห่งรัฐซึ่งได้รับสิทธิ์จากโครงงานเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรผลประโยชน์แห่งรัฐ โดยขอให้จัดแจงลงทะเบียนเข้าร่วมโครงงานคนละครึ่งในวันที่ 11/11 ก่อนปริมาณสิทธิจะหมดลงอีกรอบ อย่างไรก็ตาม ผู้ได้รับสิทธิ์และใช้สิทธิ์ตามโครงงานคนละครึ่งแล้ว จะไม่สามารถที่จะเข้าร่วมมาตรการช้อปดีมีคืนได้
อย่างไรก็ตาม สำหรับความก้าวหน้าปัจจุบัน ณ วันที่ 9 พ.ย. 2563 เวลา 12.00 น. มีร้านรวงลงทะเบียนเข้าร่วมโครงงานแล้วกว่า 5.57 แสนร้านรวง และผู้ใช้สิทธิ์แล้วปริมาณ 7,352,274 คน โดยมียอดการใช้จ่ายสะสม 10,155 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่พลเมืองจ่าย 5,178 ล้านบาท และภาครัฐร่วมจ่ายอีก 4,977 ล้านบาท ยอดใช้จ่ายเฉลี่ย 214 บาทต่อครั้ง โดยจังหวัดที่มีการใช้จ่ายสะสมสูงที่สุด 5 ขั้นแรก ยกตัวอย่างเช่น จังหวัดกรุงเทพมหานคร, จังหวัดสงขลา, นครศรีธรรมราช, สุราษฎร์ธานี และเชียงใหม่ ตามลำดับ.

10 Fight 10 ซีซั่น 2 คู่แน็ก ชาตรี-เจมส์ กิจเกษม จากคู่ฮากลายเป็นคู่ดราม่า เมื่อชาวโซเชียลแห่วิจารณ์พรึ่บ ตอนแน็กพูด กันต์ยิงมุกหาว่าแน็กป่วย รวมทั้งยังไม่ให้ซีน โฟกัส จีระกุล จนเจมส์ต้องดึงแฟนตัวเองมาออกแทน

ดราม่าแน็ก-กันต์ เมื่อกันต์ถามแน็กว่าแน็กเจ็บป่วยหรือไม่ !?
สิ่งที่เห็นว่าจะเป็นที่เอ่ยถึงมากยิ่งกว่าการต่อยของแน็กรวมทั้งเจมส์นั้น ดูเหมือนจะเป็นดราม่ายาวเฟื้อย เริ่มตั้งแต่เรื่องของ แน็ก ชาลี ที่เมื่อต่อยเสร็จแล้วแพ้ แน็ก บอกว่า ผู้ใดที่สงสารตน ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องสงสาร เนื่องจากว่าตนถูกใจโดนอัด ถ้าเกิดผู้ใดรู้เรื่องจะรู้ดีว่าตนเจ็บมาตลอดหลายอาทิตย์ แต่ช่างเถอะจริงๆตนมันรวมทั้งบันเทิงใจ ถูกใจความเจ็บปวด เวลาที่เข้าค่ายมวยก็จะบอกว่าให้อัด เนื่องจากว่าตนฝึกซ้อมน้อยต้องการจะรู้ดีว่าเป็นยังไง ซึ่งจังหวะนั้นเอง กันต์ แซวออกมาว่า “พี่ว่าพวกเราเจ็บป่วยนะ”

ทั้งนี้ ซีนนี้ใครหลายๆคนไม่เห็นด้วยที่กันต์บอกว่าแน็กเจ็บป่วย เนื่องจากว่าเห็นว่าแน็กเป็นผู้ที่มีความคิดไม่ซ้ำใครอย่างงี้มานานมาแล้วแล้ว บางบุคคลเห็นว่าการไปบอกว่าแน็กเจ็บป่วย เป็นเสมือนการไม่ให้เกียรติผู้ที่มาขึ้นเวที

น้องอาเธอร์ โดนพิธีกรขัด ทำไปต่อไม่ติด หยุดพูดกึ่งกลางรายการสด
ยิ่งไปกว่านี้ยังมีช่วงจังหวะหนึ่งที่กันต์สัมภาษณ์ น้องอาเธอร์ หลานชายของแน็ก โดยถามถึงแผนของน้าแน็กว่าคืออะไร น้องอาเธอร์ ก็กล่าวว่า “ผมรู้จักพี่เขามานาน พี่เขา….” กันต์ก็ไปประสานมือน้องอาเธอร์แล้วถามว่า “คุยกับผู้ใด ทราบแล้วว่ารู้จักกันมานาน พี่แน็กต่อยแล้วเป็นยังไงขอรับ” ซึ่งทำให้น้องอาเธอร์หยุดไปชั่วขณะเวลาหนึ่ง จนกันต์จำเป็นต้องบอกว่า “เฮ้ย รายการสด” แต่น้องอาเธอร์ก็ยังเงียบไปไม่เป็น จนทำให้คนนั่งด้านข้างน้องอาเธอร์ช่วยถามว่า “อยากให้น้าแน็กชนะไหม” รวมทั้งน้องอาเธอร์จึงกล่าวว่า “แพ้ขอรับ”

งานนี้หลายท่านเห็นว่า การที่กันต์ไปขัดน้องอย่างงี้ ทำให้มุกของน้องอาเธอร์ที่บางทีก็อาจจะจำมาสะดุด จนน้องไปไม่เป็น ขาดความมั่นใจและเชื่อมั่นในตนเอง การไปพูดสอดเสมือนไปกดดันเด็ก จนคนด้านข้างจำเป็นต้องมาช่วยแก้สถานการณ์

โฟกัส จีระกุล มาเชียร์แฟน แต่พิธีกรไม่ให้ซีน – กล้องถ่ายรูปไม่จับ
รวมทั้งสิ่งที่ดูเหมือนจะเอ่ยถึงกันเยอะที่สุด คงจะเป็นการที่ โฟกัส จีระกุล มาในรายการ แต่ไม่มีใครสนใจ ในขณะที่ปกติแล้วจะมีการให้เครื่องปรับอากาศไทม์ สัมภาษณ์นิดนึง ยิ่งไปกว่านี้ระหว่างที่มีการต่อย กล้องถ่ายรูปก็ไม่จับ โฟกัสก็ถือน้อยหน่ามา สื่อถึงเรื่องแฟนฉันที่โฟกัสเล่นเป็นนางเอกชื่อน้อยหน่า แต่ไม่มีการขอเสียงตบมือให้รวมทั้งเอ๋ยถึงหรือต้อนรับ ซึ่งชาวเน็ตนิดหน่อยคาดว่าที่เป็นทั้งนี้เพราะโฟกัสผูกโบสีขาว เครื่องหมายด้านการเมือง มาออกรายการ

อย่างไรก็ดี เจมส์ กิจเกษม ก็ได้เล่นมุกดึงโฟกัสเข้ามา รวมทั้งเอาน้อยหน่าที่ซื้อมาแบ่งไปให้แน็ก พร้อมกับที่โฟกัสเข้าไปกอดให้กำลังใจแน็ก แต่แม้กระนั้นหลายท่านก็เห็นว่า กันต์เกือบจะไม่มองดูโฟกัส ไม่ยื่นไมค์สัมภาษณ์ รวมทั้งแทบทำให้โฟกัสไม่มีซีนอะไรก็ตามในรายการเลยด้วย

ทั้งเข้าและพลาด! วาร์ดี้กดจุดโทษเลสเตอร์เชือดวูล์ฟส์ 1-0

เจมี วาร์ดี้ ยิงจุดโทษเข้าไป 1 ลูก และพลาดอีก 1 ลูก ในเกมที่เลสเตอร์เปิด คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม เก็บชัยเหนือวูล์ฟส์
พรีเมียร์ลีก 2020-2021 ประจำโปรแกรมอาทิตย์ที่ 8 เป็นการพบกันระหว่าง เลสเตอร์ สิตี้ เปิดรังเหย้า คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยี่ยมของ วูล์ฟหมูแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส
เบรนแดน ร็อดพบร์ส กุนซือเจ้าบ้าน เลือกจัดกองทัพมาในระบบ 3-4-3 ด้วยการใช้สามประสานแผงเกมรุกเป็น เดนนิส ปราต, เจมี วาร์ดี้ และ เจมส์ แม็ดดิสัน
ด้านกลุ่มเยี่ยมของ นูโน เอสปิริโต้ ซานโต้ วางหมากมาในแผน 3-4-3 เช่นกัน โดยใช้สามแนวรุกเป็น ดาเนียล โพเดนซ์, ราอูล ฮิเมเนซ และ เปโดร เนโต้

เริ่มเกมได้ 15 นาที เป็นฝั่งของเลสเตอร์มาได้จุดโทษ จากจังหวะที่ เดนนิส ปราต เปิดบอลไปโดนแขนของ แม็กซ์ คิลแมน ซึ่งผู้ตัดสินมองไม่เห็นเหตุการณ์ในตอนแรก ก่อนจะวิ่งไปดูรีเพลย์ที่หน้าจอ VAR ข้างสนาม และเป่าให้เป็นจุดโทษ ก่อนจะเป็น วาร์ดี้ สังหารไม่พลาด ส่งให้สุนัขจิ้งจอกสยามขึ้นนำ 1-0
แล้วต่อจากนั้นนาทีที่ 39 อดีตแชมป์เมื่อปี 2016 มาได้จุดโทษอีกรอบ จากจังหวะที่ เจมส์ จัสติน ไปโดน รายาน ไอต์ นูริ เสียบสกัดล้มลงไป ทว่าครั้งนี้ วาร์ดี้ กลับสังหารไปติดเซฟ รุย ขว้างรทริสิโอ แล้วกระดอนมาโดนตัวเขาเองออกหลุดกรอบออกไป ทำให้จบ 45 นาทีแรกยังเป็นเจ้าบ้านที่นำอยู่ 1-0
ครึ่งหลังไม่มีประตูเกิดขึ้นเพิ่มอีกอะไร ทำให้ท้ายที่สุดจบเกมเป็นเลสเตอร์ สิตี้ชนะไป 1-0 เก็บเพิ่มเป็น 18 แต้ม ขยับขึ้นไปรั้งผู้นำฝูงชั่วครั้งคราว ส่วนวูล์ฟหมูแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์สอยู่อันดับ 8 ยังมี 13 แต้มเท่าเดิม

รายนามนักฟุตบอลทั้งคู่กลุ่ม

เลสเตอร์ สิตี้ (3-4-3) : แคสเปอร์ ชไมเคิล; เวสลีย์ โฟฟาที่นา, จอนนี อีแวนส์, คริสเตียน ฟุคส์; เจมส์ จัสติน, น็อมขว้างลิส เมนดี้, ยูริ ตีเลอมันส์, ลุค โธมัส (มาร์ค อัลไบรท์ตัน น.46); เดนนิส ปราต (เวส มอร์แกน น.80), เจมี วาร์ดี้, เจมส์ แม็ดดิสัน (ฮาร์วีย์ บาร์นส์ น.72)
สำรองไม่ได้ใช้ – แดนนี วอร์ด, เคเลชี อิเฮที่นาโช, เจนกิซ อุนแดร์, ฮัมซา เชาฮ์ดรี้
ใบเหลือง : จอนนี อีแวนส์ น.63, เวสลีย์ โฟฟาที่นา น.81
วูล์ฟส์ (3-4-3) : รุย ขว้างทริสิโอ; วิลลี โบลี, คอนเนอร์ โคดี้, แม็กซ์ คิลแมน; เนลชอน เซเมโด้, รูเบน เนเวส, เลอันเดอร์ เดนด็องเกอร์, รายาน ไอต์ นูริ (แฟร์นานโด มาร์ซาล น.76); ดาเนียล โพเดนซ์ (อดามา ยี่ห้อโอเร น.60), ราอูล ฮิเมเนซ, เปโดร เนโต้ (ฟาบิโอ สิลวา น.79)
สำรองไม่ได้ใช้ : จอห์น รัดดี้, โรแม็ง ซาอิสส์, เชา มูติเตียนนโญ, โอเวน โอตาโซวี
ใบเหลือง – เลอันเดอร์ เดนด็องเกอร์ น.41, รูเบน เนเวส น.50

หนังสยองขวัญ ที่ท้าให้คุณมาดูแบบน่ากลัวๆ ซึ่งหนังสยองขวัญเองก็พ่วงไปกับหนังได้อีกหลายแนว ทั้งหนังผี หนังซอมบี้ หนังทฤษฎีสมคบคิด ไปดูกันว่ามีเรื่องไหนที่ยังไม่เคยดู ต้องรีบหามาดูแล้วล่ะ

8. Mara / ตื่นไหลตาย

เคยไหมที่ได้ฝันร้ายตอนนอน มีความรู้สึกราวกับมีอะไรบางอย่างกดทับร่างของเราไว้ ทำให้เราลุกไม่ขึ้น เคยไหมที่ร่างกายขยับไม่ได้ขณะนอนหลับราวกับเป็นอำมพาตไปชั่วประเดี๋ยว และเคยไหมที่จะส่งเสียงร้องออกมาจากปากแล้วไม่ได้ยินเสียง หากคุณเคยเป็นอย่างงี้มีความหมายว่าคุณกำลังถูกผีอำ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราไม่เห็น แม้กระนั้นบางคนก็ว่าอาการพวกนี้ไม่ได้มีต้นเหตุที่เกิดจากการถูกผีอำ แม้กระนั้นมีต้นเหตุที่เกิดจากการที่ร่างกายเราอ่อนเพลียจนเกินความจำเป็น ทำให้มีความรู้สึกอ่อนแรงมากจนไม่อยากตื่นมา

7. ELI / อีไล จิตต้องขัง

“เป็นหนังที่มองได้เรื่อยๆพีคขึ้นเรื่อยๆแล้วก็ทำให้คนดูงวยงงขึ้นเรื่อยๆเหมือนกัน”
หนังเล่าแบบการมัดเงื่อนครั้งละเงื่อนทำให้คนดูเรานั้นพึงพอใจในเรื่องราวของหนังก้าวหน้า แถมระหว่างทางหนังก็ยังใช้ทุกสิ่งชักจูงให้คนดูเราทั้งยังหลงทาง จนพอเพียงคลายเงื่อนทั้งสิ้นและเอามาบรรจบกันก็คงทำให้หลายๆคนอุทาน What the… ออกมาตามๆกันซึ่งผมก็เป็นเลิศในนั้นเหมือนกันที่ อึ้งและงวยงงกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในหนังในตอนจบเหมือนกัน
ผู้แสดงก็ขอชื่นชมแต่ละคนว่าเล่นดีจังๆไม่ว่าจะเป็นผู้แสดงเด็ก บิดา แม่ รวมไปจนกระทั่งตัวหมอที่เล่นดีเยี่ยมอย่างยิ่งจริงๆและผู้แสดงก็เป็นอีกสภาพแวดล้อมในหนังเหมือนกันที่ทำการหลอกคนดูเราอยู่ตลอดเวลาไม่ว่าจะเป็น คำบอกเล่า การแสดงสีหน้า ไปจนกระทั่งจนกระทั่งการกระทำของแต่ละคนทำให้พวกเราหลงทางได้มากพอสมควรเลยล่ะ!

6.Deadly Shores / ชายฝั่งมรณะ

หนังระทึกขวัญที่น่าดึงดูดนี้ติดตามแอนทุ่งนาผู้ซึ่งย้ายไปยังเกาะไกลห่างในฐานะเจ้าสาวคนใหม่ของผู้เขียนปัญหาที่เลื่องลือ เธอเปิดเผยความลับเกี่ยวกับสมัยก่อนภรรยาของสามีใหม่ที่ตายแล้วและกลัวว่าเธอจะกลายเป็นเหยื่อรายต่อไป

5.Boo! / เสียงหลอนมากับความมืด

รอบห้องครัวที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังใหญ่ มี สมาชิก 4 คนเป็นบิดา แม่ พี่สาว และ น้องชาย ตัวน้องชายเป็นเด็กที่มีความเชื่อพิเศษ และเห็นสิ่งต่างๆเกี่ยวกับปีศาจอยู่ในหัว วันหนึ่งมี BOO! (บู!)มาส่งหน้าบ้านในช่วงวันฮาโลวีน ในถุงบูนั้นมีกลอนที่บอกว่าให้ส่งต่อไปอีก 2 บ้าน ไม่อย่างนั้นคำสาปแช่งจะก่อให้ทุกคนในบ้านนี้ตาย คนในครอบครัวไม่มีใครเชื่อเลย เว้นเสียแต่ ค้างเลป และไม่เชื่อยังไม่เพียงพอ บิดายังเผากลอนที่อยู่ในถุงบูต่อหน้าต่อตาค้างเลป มันทำให้เขากลัวมาก และเกิดความรู้สึกน้อยใจที่ไม่มีใครเข้าใจเขา ถึงแม้ว่าบิดาเชื่อทุกสิ่ง ไม่ว่าจะเป็น พระเจ้า งูบอกได้ หรืออะไร แม้กระนั้นไม่มีใครเชื่อค้างเลปว่าเรื่องคำสาปแช่งในกลอนบูเคยเกิดขึ้นมาก่อนจริงๆ

4.The Possession of Hannah Grace / ห้องเก็บศพ

เมื่อตำรวจที่พึ่งออกมาจากสถานบำบัดใช้เวลาเปลี่ยนแปลงโรงพยาบาลในเมืองเป็นหลุมฝังศพ เธอจะต้องพบเจอกับเรื่องแปลกและร้ายแรงที่เกิดขึ้นมาจากสิ่งเลวร้ายหนึ่งในศพที่เสียโฉม ตอนที่ทำงานกะดึกที่โรงเก็บศพ

3. Slender Man / สเลนเดอร์แมน

ในเมืองเล็กๆแห่งหนึ่งในมลรัฐแมสซาชูเซตส์กลุ่มสหายที่คลั่งไคล้ในการเล่าอินเทอร์เน็ตของชายผิวดำอุตสาหะที่จะพิสูจน์ว่าเขาไม่อยู่จริงตราบจนกระทั่งจะมีคนอื่นๆหายตัวไปอย่างลึกลับSlender Man คือเรื่องราวของสิ่งมีชีวิตลึกลับรูปร่างผอมสูง ตัวแทนของความสยองขวัญที่มีแขนยาวและปราศจากบริเวณใบหน้า ผู้ที่อยู่เบื้องหน้าเบื้องหลังความหลอนสุดสยอง และการหายไปอย่างนับไม่ถ้วนของบรรดาเด็กๆและ วัยรุ่น

2.The First Purge / ปฐมบทคืนอำมหิต

ยังคงความเป็นเอกลักษณ์และความตื่นเต้นในเรื่องราวไว้ได้ แม้ว่าจะไม่เท่าภาคก่อนๆถึงอย่างงั้นก็ยังจัดว่ามองบันเทิงใจอยู่ดี แม้กระนั้นหากใครกันแน่หวังว่าจะได้ไปเสพความจิต ความหลอน ความจะต้องสงสัยหลังแบบภาคก่อนๆก็อาจจะผิดหวัง ด้วยเหตุว่าอย่างที่บอกคือรอบนี้เค้าเน้นสู้แบบปะทะหน้ากันมากกว่า และตัวพระเอกก็เมพมาก

1. Suspiria / กลัว

เกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในปี 1977 ซูซี แบนเนียน นักเต้นบัลเลต์สาวจากอเมริกาได้เดินทางมายังภาควิชาบัลเลต์ชื่อดัง ความสามารถพิเศษในการเต้นของซูซีทำให้ความเกี่ยวเนื่องระหว่างเธอกับ มาดามบลังค์ หัวหน้าผู้ฝึกของภาควิชามีความแน่นแฟ้นขึ้นอย่างน่าแปลก เสมือนว่าวัตถุประสงค์ของเธอนั้นไม่ได้มาเพื่อการเต้นรำแค่นั้น ในเวลาเดียวกัน หญิงสาวภายในภาควิชาก็เริ่มทยอยหายตัวไปอย่างลึกลับ ความหวาดกลัวเริ่มฝังรากลงไปในจิตใจของผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ และความไร้มนุษยธรรมที่แฝงอยู่ภายใต้โฉมหน้าของภาควิชาบัลเลต์ที่โด่งดังก็เริ่มเปิดเผยเขี้ยวเล็บออกมา พร้อมทั้งเสียงโหยไห้ของผู้ที่กลายเป็นเหยื่อของมัน

ถ้าบอกกันถึงหนังแอคชั่น มันก็เป็นหนังที่ประเทืองอารมณ์เราได้มากทีเดียวนะ แน่ๆว่า ตัวหนังมันบางทีก็อาจจะไม่ได้มีสตอปรี่อะไรเยอะมาก แม้กระนั้นสิ่งที่คนดูมองหาเป็น ฉากต่อสู้ ความดุเดือดเลือดพล่านเผ็ดมันส์ ความทารุณโหดร้าย เวลาโกรธคนไหนมา หรือเครียดๆแล้วได้ดูหนังบู๊นะ รับรองหายเครียด เพราะ ความขุ่นเคืองมันลงไปอยู่ในหนังหมดแล้ว วันนี้ จะพาคุณไปดู สายบู๊จำเป็นต้องมอง! 8 ชั้น หนังแอคชั่น โหดเหี้ยมมันส์ สู้กันพังทลาย ผลาญสุดๆคนไหนใจอ่อนแนะนำว่าอย่ามองนะจ๊ะ

8. Bad Boys for Life

จัดแจงบ้าระห่ำกันอีกครั้งในรอบ 17 ปีกับตำรวจคู่หูคู่ฮา “ไมค์ ลอว์ปรี่” แล้วก็ “มาร์คัส เบอร์เนตต์” ในภารกิจบู๊ลั่นที่บางทีก็อาจจะกลายเป็นคราวสุดท้ายของพวกเขา มาร์คัสนั้นพร้อมเกษียณตัวเองจากวงการตำรวข แม้กระนั้นจำเป็นต้องกลับมาลุยอีกครั้งเมื่อไมค์กลายเป็นเป้าฆ่าของแก๊งผู้ค้ายาเสพติดที่ทารุณไร้มนุษยธรรม ทำให้มาร์คัสจำเป็นต้องกลับมาเพื่อช่วยเหลือเพื่อนรัก ภาค 1 แล้วก็ภาค 2 เป็นหนังฮิตระเบิดในปี 1995 แล้วก็ 2003 เป็นหนังกลางแจ้งเกิดให้กับผู้กำกับอย่าง Michael Bay ซึ่งน่าเสียดายที่เขาไม่ได้กลับมาควบคุมในภาคนี้ ปลดปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ Adil El Arbi แล้วก็ Bilall Fallah สองผู้กำกับคนใหม่ชาวโมร็อกโก ดีกรีรางวัลดิสคัฟเวอรี อวอร์ด จากเทศกาลหนังโตรอนโตปี 2015 แม้กระนั้นยังคงอำนวยการสร้างโดย Jerry Bruckheimer เหมือนเดิม

7. Birds of Prey: And the Fantabulous Emancipation of One Harley Quinn

ติดอันดับต้นๆของหลายโพลล์ตรวจหนังน่าดูในปี 2020 สำหรับ Birds of Prey หนังรวมดาวสาวตัวร้ายขาโหดเหี้ยมที่จะบอกเล่าเรื่องราวของฮาร์ลีย์ ควินน์ หลังเลิกกับโจ๊กเกอร์ เธอมานะลบล้างตัวตนเดิมแล้วก็สร้างฐานะตนใหม่ เริ่มตั้งแต่ ตัดผม ทานอาหารขยะ สักลายใหม่บนตัว แล้วก็ซื้อสุนัขไฮยีน่า มาเลี้ยง แล้วหลังจากนั้นเราจะมองเห็นฮาร์ลีย์กลับไปยังโรงงานสารเคมี สถานที่ที่โจ๊กเกอร์สร้างเธอขึ้นมาในภาค Suicide Squad เมืองก็อตแธมจะมองผิดแผกแล้วก็เต็มไปด้วยสีสันมากยิ่งกว่าที่เคยได้เห็นมาในเรื่องไหนๆเหตุผลก็เพราะว่าหนังจะเล่าผ่านมุมมองของ ฮาร์ลีย์ ควินน์ ที่มองดูทุกสิ่งแบบ “คัลเลอร์ฟูล” สมทบด้วยผู้แสดงอื่นได้แก่ กางล็คแคนารี แล้วก็ฮันท์เทรส ในตัวอย่าง คนดูจะได้มองเห็นกางล็คแคนารีใช้พลังเสียงเหนือมนุษย์ “แคนารีคราย” แล้วก็ผู้แสดงที่มาเป็นตัวร้ายหลักของเรื่อง รับบทโดย Ewan McGregor ที่ได้สวมหมวกกระโหลกเป็นครั้งแรก

6. Bloodshot

Vin Diesel ขอกระโดดเข้าสู่หนังซูเปอร์ฮีโรอีกประเด็น เพื่อหวังเปิดแฟรนไชส์ใหม่ให้กับตัวเองในหนัง Bloodshot เล่าราวของ “เรย์ เอ็งริสัน” มือสังหารที่เข้าโครงงานป้องกันพยาน แม้กระนั้นถูกหักหลังแล้วก็นำตัวไปทดสอบในการสร้างยอดเยี่ยมมือสังหารของหน่วยงานลับ ทำให้เขาสูญเสียความทรงจำไปทั้งปวง แล้วก็กลายเป็น Bloodshot คนที่มีพลังซ่อมตัวเอง สามารถจำแลงกายเองเป็นใครก็ได้ แล้วก็ยังเชื่อมต่อกับเครื่องใช้ไม้สอยอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆหน่วยงานลับจะล้างสมองเขาก่อนไปทำภารกิจด้วยการใส่หน้าจุดมุ่งหมายเข้าไปในความทรงจำของเรย์ ควบคุมโดย Dave Wilson ผู้กำกับที่มาจากสายงานแนวทางพิเศษ แล้วก็เป็นผู้ร่วมจัดตั้งขึ้น Blur Studio กับ Tim Miller (Terminator: Dark Fate, Deadpool) โดยจะควบคุมจากบทของ Eric Heisserer (Arrival, Lights Out) ค่าย Sony วาดหวังจะให้เขาเขียนบทของหนังจักรวาล Harbinger ของ Valiant Comics Universe (VCU) ที่จะมีทั้งปวง 5 เรื่อง แม้กระนั้นโครงงานจักรวาลล้มพับไป

5. 007 James Bond: No Time To Die

ตอนสุดท้ายของภารกิจ “สายพยัคฆินร้าย 007” โดยผู้แสดง Daniel Craig ที่สวมบทบาทนี้มาตั้งแต่ภาค Casino Royale (2006) เมื่อ 13 ปีกลาย เนื้อเรื่องของภาคนี้ 007 ได้ออกมาจากการกระทำหน้าที่เป็นสายแล้วก็เกษียณตัวเองไปอยู่ที่ประเทศจาแร่กลีบหิน แม้กระนั้นแล้วเพื่อนเก่าสาย CIA อย่าง “ฟีลิกซ์ ไลเทอร์” ก็แสดงตัวเพื่อขอให้เขาทำภารกิจช่วยเหลือนักวิทยาศาสตร์ที่ถูกลักพาตัวไป ท้ายที่สุดกลายเป็นว่าภารกิจนี้สลับซับซ้อนแล้วก็มีปมอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ บอนด์จำเป็นต้องออกไล่ล่าตัวร้ายสุดอันตรายที่มาพร้อมกับอาวุธลับไฮเทคชิ้นใหม่ หนังก็ยังได้สาวบอนด์จากในขณะที่แล้ว Léa Seydoux (Mission Impossible: Ghost Protocol) กลับมารับบท แมดเดอร์ลีน สวอนน์ได้แก่เดิม แล้วก็ Christoph Waltz (Django Unchained, Inglorious Basterds) กลับมารับบท โบลเฟลด์ ตัวร้ายของภาค Spectre เสริมเติมด้วย Rami Malek ผู้แสดงเจ้าของรางวัลออสการ์นำชายปีล่าสุดจาก Bohemian Rhapsody มาแสดงเป็นตัวร้ายหลักในภาคนี้

4. Black Widow

ต้อนรับผู้กำกับ Justin Lin กลับสู่อ้อมออกของแฟรนไชส์อีกครั้ง รวมถึงการได้นางอิจฉา Charlize Theron ในบท “ไซเฟอร์” ที่แว่วว่าจะเปลี่ยนมาเป็นตัวดี (เหมือนผู้แสดงชอว์ของ Jason Statham) กลับมาอีกครั้งแล้วก็ Universal ก็ยังมีโครงงานจะสร้างภาคแยกของผู้แสดงตัวนี้เหมือนกันกับที่ทำ Hobbs & Shaw สมทบด้วย Helen Mirren, Michelle Rodriguez, Tyrese Gibson แม้จะไม่ได้ Dwayne Johnson กลับมาเพราะคิวงานแน่นมาก แม้กระนั้นก็ได้นักมวยปลุกปล้ำที่มาเอาดีทางการแสดงอีกคนอย่าง John Cena ที่ก็เล่นหนังมากมายเข้าสู่แฟรนไชส์แห่งความเร็วนี้ด้วย กับผู้แสดงอีกคนก็คือ Michael Rooker จาก Guardians of the Galaxy หนังยังไม่มีการเปิดเผยเนื่อเรื้องแม้กระนั้นก็มีการปลดปล่อยภาพการถ่ายทำในประเทศต่างๆตามสไตล์หนังนานาชาติ รวมถึง จังหวัดกระบี่ที่เมืองไทย แม้กระนั้นผู้แสดงหลักไม่ได้เดินทางมาถ่ายทำด้วย ตัวอย่างแรกจะมาในเดือนมกราคม ปี 2020

3. Wonder Woman

หนังที่คนรอดูเยอะที่สุดของเว็บไซต์ iMDB หนังยังคงควบคุมโดย Patty Jenkins ที่เป็นผู้กำกับภาคแรก เธอเคยให้สัมภาษณ์ไว้ถึงการเลือกขณะยุค 80s มาเล่าในภาค 2 ว่า “ฉันเติบโตมาในยุค 80s แล้วก็มันมีหน้าตาแล้วก็ความรู้สึกเฉพาะแบบของมันเอง มันแสดงให้เห็นด้านที่เหมาะสมที่สุดแล้วก็ห่วยที่สุดของมนุษยชาติขณะนั้น แล้วก็มันมีความงามสง่า เกิดดนตรีชั้นยอดเยี่ยม เกิดสิ่งที่หรูหรา แม้กระนั้นอีกสิ่งก็คือการเกิดด้านที่ห่วยที่สุดของมนุษย์เรา การมีวันเดอร์วูแมนดำรงอยู่ในยุคนั้นมันจะเยี่ยมที่สุดมากๆ” วันเดอร์วูแมนยังคงนำแสดงโดย Gal Gadot สมทบด้วย Chris Pine (Star Trek) ที่กลับมารับบทเป็นสตีฟ เทรเวอร์ (ซึ่งแฟนหนังคงจำเป็นต้องไปติดตามดูในเรื่องว่า เขาฟื้นจากวาระสุดท้ายในภาคแรกมาได้อย่างไร?) Pedro Pascal (Narcos, The Mandalorian) ในบทแม็ก ลอร์ด Kristen Wiig (Bridesmaids) ในบทตัวร้ายหลักของเรื่องอย่างแม่เสือชีตาร์

2. Venom 2

ภายหลังจากภาคแรกปี 2018 ทำรายรับรวมทั่วทั้งโลกไปกว่า 800 ล้านเหรียญฯ เกินกว่าที่ค่าย Sony คาดคะเนไว้ ก็เลยไม่แปลกที่ภาค 2 จะตามมาอย่างรวดเร็ว (บานปลายเกินเลยไปถึงกับขนาดจะเอาแฟรนไชส์ Spider-Man กลับมาทำเองจนเป็นข่าวใหญ่ไปเมื่อกลางปี 2019 นี้ ก่อนจะปิดดีลด้วยความลงตัวเพราะไอ้หนุ่ม Tom Holland เป็นกาวประสานจิตใจ ในภาคต่อนี้ผู้กำกับ Ruben Fleischer ไม่ได้กลับมาแม้กระนั้นขอส่งต่อให้ผู้กำกับคนเก่งที่เป็นผู้แสดงโมชันแคปมือหนึ่งอย่าง Andy Serkis มากำกับแทน ผู้แสดงทีมเดิมกลับมากันครบ สมทบด้วย Woody Harrelson ที่จะมาเป็นตัวร้ายภายหลังจากทิ้งเชื้อกับบท “คาร์เนจ” ไว้ใน End Credit ด้านหลังตอนสุดท้ายของภาคแรก แล้วก็ยังแว่วมาว่า Tom Holland กำลังอยู่ระหว่างพูดจาที่จะมารับบทรับเชิญ (Cameo) ในภาคนี้ด้วย

1. Eternals

Eternals เป็นเนื้อเรื่องของซูเปอร์ฮีโรที่เป็นสิ่งทรงภูมิปัญญาสูงสุดแล้วก็มีพลังเปรียบเทียบดั่งเทพเทวดา นำแสดงโดย Angelina Jolie (Maleficent) ผู้แสดงสาวแถวหน้าของวงการรับบทเป็น ธีน่า Salma Hayek (Frida) รับบท เอแจ็ค Richard Madden (Game of Thrones) รับบท อิค้างรัส Kit Harington (Game of Thrones) รับบท เดน วิทแมน Kumail Nanjiani (The Big Sick) รับบท คิงโก แล้วก็ Dong-seok Ma หรือมาดงซอก (Train to Busan) รับบท กิลกาเมซ Barry Keoghan (Dunkirk) รับบท ดรูอิก Gemma Chan รับบท เซอร์ซี เป็นต้น ถ้ามองจากชื่อก็คงพอเพียงทายใจกันได้บ้างว่า มีที่มาจากเทพเทวดาในตำนานของกรีก เรียกได้ว่า Eternals จะเป็นหนังรวมฮีโรด้วยพลังซุปตาร์จากทั่วทั้งโลก เพื่อกลายเป็นอีกหนึ่งแฟรนไชส์ที่ยิ่งใหญ่ต่อไปของ Marvel Studio อย่างแน่นอน

การไปย้อนกลับไปดูหนังเก่าๆ ที่หอภาพยนตร์เป็นประสบการณ์ที่หาจากที่อื่นไม่ได้อีกแล้ว ต้องที่นี่เลยเท่านั้น เพราะจะทำให้คุณคิดถึงช่วงเวลาอันมีความสุขเหล่านั้นขึ้นมาอีกว่าแล้วมาดูกันเลย

1.Myself ขอให้รักจงเจริญ (2007)

เป็นภาพยนตร์ไทยที่ออกฉายในปี พุทธศักราช 2550 ผลงานดูแลชิ้นแรกของ พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง แสดงนำโดย อนันดา เอเวอริงหมูแฮม เป็นเรื่องเกี่ยวกับความรักของเกย์หนุ่ม ผู้แสดงคาบาเร่โชว์ ที่สูญเสียความทรงจำ กับครีเอทีฟสาวบริษัทออร์เอ็งไนเซอร์
สิ่งที่โดดเด่นที่สุดในหนังประเด็นนี้ เป็นการนำเสนอตัวละคร แทน กับ คุณอุ้ม ซึ่งเป็น character ที่มีเสน่ห์รวมทั้งน่าจดจำมาก จำได้ว่าตอนที่ดูหนแรกในโรงเนี่ยผมหลงเสน่ห์ผู้แสดงคุณอุ้มมาก นี่เป็นผู้แสดงด้ามจับต้องได้ ไม่สวยจนถึงเกินความจำเป็น ดำเนินงานเก่ง แม้กระนั้นขาดความเชื่อมั่นในตนเองนิดๆรั่วๆหน่อย รวมทั้งมีความเป็นผู้หญิงๆมากๆกับแทน ผู้แสดงที่แม้กายจะเป็นชาย แม้กระนั้นไม่มี skill ความเป็นผู้ชายเลย ซ่อมแซมไฟไม่ได้ ชกไม่เก่ง ขับร้องก็แย่ แม้กระนั้นเค้าจะอยู่ข้างๆคุณอุ้มเสมอในช่วงเวลาที่คุณมีปัญหา กับประโยคง่ายๆที่แทนถูกใจพูดอย่าง “คุณอุ้มเก่งจัง ผมคงเพราะเหตุไรได้”

2.February  กุมภาพันธ์ (2003)

เมื่อ “แก้วตา” ได้รับรู้ถึงกำหนดวันตายของตัวเอง คุณตัดสินดำเนินชีวิตที่เหลืออยู่เพียงสี่เดือนบินไปนิวยอร์ก เพื่อลืมความเป็นจริงอันแสนเจ็บทั้งหลายแหล่ที่เมืองไทย แม้กระนั้นที่นิวยอร์กคุณกลับเกิดอุบัติเหตุตั้งแต่วันแรกที่ไปถึง เมื่อรู้สึกตัวขึ้นมาคุณกลับจำอะไรไม่ได้แม้แต่ชื่อของตัวเอง ท่ามกลางบรรยากาศที่แปลกตา กลางเมืองอันแปลกแยกรวมทั้งงวยงง ในซอกหลืบของความมืดมนที่มหานครนิวยอร์ก ตรงนั้นคุณได้พบกับบุรุษลึกลับ ที่คุณไม่เคยทราบเลยว่าเขาเป็นใครกันแน่ ดำเนินงานอะไร รู้เพียงแต่ว่า เขาเป็นคนๆเดียวที่รอดูแลคุณตลอดมา ในช่วงเวลาที่ผ่านไปทุกวัน แม้ว่าจะทำให้บาดแผลของคุณดียิ่งขึ้น แม้กระนั้นนั่นก็ไม่มีความสำคัญ เท่ากับความรู้สึกที่คุณได้รับจากเขา ความรู้สึกที่เช่นเดียวกับได้เริ่มชีวิตใหม่อีกครั้ง แม้กระนั้นความรักจะสำคัญยังไง ถ้าเกิดคุณได้รับรู้ว่า ช่วงอันแสนสุขนี้ มีเวลาถึงแค่เพียง กุมภาพันธ์ เท่านั้น

3. The Possible เก๋า..เก๋า (2006)

ภาพยนตร์ไทยสำหรับในการดูแลของบอล-วิทยา ทองคำอยู่ยง หนึ่งในกลุ่มผู้กำกับ ‘แฟนฉัน’ ที่ปล่อยให้เพื่อนฝูงๆร่วมก๊วนออกไปสร้างที่ดินรวมทั้งผลงานมานักต่อนักนี้ เป็นเรื่องราวของวงดนตรีสตริงคอมโบโด่งดังที่ยุคอย่าง Possible ที่มีสมาชิกระดับคิวทองคำอย่าง ต๋อย นักร้องนำ (แสดงนำโดยโจอี้ บอย นักร้องฮิพฮอพระดับตำนาน) , โบ้ มือกีตาร์ (แสดงโดยพี่โป้ โยคีเพลย์บอย อีกคนที่ผมชอบพอ) , สอง เบบี้ มือเบส (โดยพี่สอง มือเบสสุดแนวกระจายของวงพาราด็อกซ์), เบ๊ มือกลองน้องเล็ก (แสดงโดยโบ โอโซน นักจัดรายการวิทยุคลื่น EFM), น็อต คีย์บอร์ดเทพ (แสดงนำโดยน็อต คู่หูของโจอี้บอย) รวมทั้งเหล่าสมาชิกนักเป่าอีกสามคน พวกเขาเป็นวงที่โด่งดังเลื่องลือ แฟนคลับต่างหลงใหลกันถึงกับขนาดไปคอยเพื่อฟังกันตั้งแต่ไก่โห่ แม้กระนั้นเหมือนกันกับวงดนตรีที่โด่งดัง การจองหองเย่อหยิ่งรวมทั้งความฮึกเหิมตนเองทำให้พวกเขามีพฤติกรรมที่ชั่วช้าใช่ที่ อีกทั้งเมาสุราขณะแสดง ไม่สนใจความรู้สึกมิตรรักแฟนเพลง แถมไปเบ่งเกทับกับวงรุ่นน้องตามหลังอย่าง The Impossible แบบไม่ให้ผุดให้กำเนิด แน่ล่ะ พวกเขาก็ไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรสักเท่าไรนัก ด้วยสำคัญตนเองว่ายังคงโด่งดังรวมทั้งเป็นที่นิยม ดังนั้นจะทำ คิด หรือพูดอะไร ก็ไม่ได้ส่งผลเห็นผลเสียกับตนเองกันสักเท่าไร

ท่านผู้ชมทั้งหลาย ที่เข้ามารับดู กันในวันนี้นั่นเอง และก็เหมือนเคย ที่ผมจะนำ หนังดีๆมาฝาก ให้ได้รับดูกัน และหากท่าน เป็นคนชอบดูหนัง ที่ชอบดูหนัง ไม่ว่าจะเป็นหนัง ในแนวโรแมนติก แนวดราม่า แนวไซไฟ แนวบู๊แอคชั่น และอื่นๆอีก มากนั่น ผมก็จะหา หนังมาให้แด่ท่าน ได้รับดูกัน อย่างต่อเนื่องเลย ประการแรกเลย จำต้องขอบอก ก่อนเลยว่า ส่วนตัวผมเองนั่น

3. Before valentine

“มันเป็นหนังรักของเมืองไทยเรื่องแรกที่เล่าเรื่องราวทุกสิ่งด้านในวันเดียว แล้วใช้เรื่องราวความรักของคนหลายๆคู่ ให้มาอยู่ในหนังเรื่องเดียวกัน โดยผู้กำกับฯ 3 คน ช่างถ่ายภาพ 3 คน เป็นทีมงานเดียวกัน ทำงานคนละสไตล์”
เนื้อความข้างบนเป็นความเห็นของ พรชัย หงส์รัตทุ่งนาภรณ์ หนึ่งในสามผู้กำกับฯ ใน “Before valentine ก่อนรัก…หมุนรอบตัวเรา” ซึ่งนอกเหนือจากที่จะนำเสนอให้เห็นภาพรวมของผลงานแล้ว ยังพรีเซ็นท์จุดเด่นว่าเป็น “เรื่องแรก” ที่มีลักษณะดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น
เมื่อมองในเชิงแนวคิด ผมมีความรู้สึกว่าหนังเรื่องนี้มีแนวคิดหลักดี โดยเฉพาะการจบลงส่วนท้ายที่ทำให้แลเห็นภาพรวมของความเกี่ยวเนื่องระหว่างคู่สมรสแต่ละคู่ และคงจะนับว่าเป็นตอนสุดท้ายที่ทำให้หลายๆคนเกิดอาการ “เซอร์ไพรส์” ได้ไม่มากก็น้อย
ในส่วนของการนำเสนอ ช่วงที่เล่าเรื่องระหว่าง สุธีกับชิดชนก มีวิธีการติดต่อที่น่าสนใจด้วยการใช้ภาพในความนึกคิดเข้ามาเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของการเล่าเรื่อง แม้กระนั้น วิธีดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นเกือบเข้าขั้นมากจนเกินไป
แม้กระนั้นถ้าถามว่าช่วงใดหรือคู่ใดเบิกบานที่สุด ผมมีความรู้สึกว่าเป็นคู่ “พี่สาว” กับ “เฮีย” ส่วนใดส่วนหนึ่งบางทีอาจเพราะว่ามีบุคคลอื่นเข้ามาเกี่ยวอย่างชัดเจน และอีกส่วนน่าจะเป็นเพราะว่าความสามารถและคุณสมบัติเฉพาะตัวของผู้แสดง (ระยะนี้ ถ้าเผยความมุ่งหมายของชายวัยกลางคนให้ลึกกว่านี้จะดีเยี่ยม)
โดยรวมแล้ว เป็นงานที่แสดงถึงการมีแนวคิดหลักสะดุดตา และเป็นงานบันเทิงที่ดูแล้วเพลิดเพลินเจริญใจดี

2. Cool Gel Attacks

บอกได้เลยว่า “กระดึ๊บ” เป็นหนังตลกของ GTH เรื่องแรกเลยที่ได้มอง เพราะว่าปกติแล้ว จะได้มองแม้กระนั้นหนังรัก ที่ประสมประสานทั้งความโรแมนติกและคอมเมดี้เข้าด้วยกัน มีไดอะล็อกสวยๆมีแง่มุมให้ฉุกคิด และดึงอารมณ์ร่วมของผู้ชมออกมาได้ดี
นี่คือ ทีแรกที่ได้พบประสบการณ์ของหนัง GTH ที่มุ่งทำหน้าที่ด้านอารมณ์ขันเป็นหลัก ประสมประสานกับความเป็นหนังอสูรกาย
เรื่องราวที่ จาตุรงค์ มกจ๊ก หรือ จตุรงค์ พลบูรณ์ ถือมาเล่าในหนังเรื่องนี้ เพิ่มมาจากเหตุการณ์ข่าวสารดังสะพัดในไทยเมื่อหลายปีที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ เมื่อชาวไทยบางคนพบสิ่งประหลาดลักษณะหยุ่นๆแบบเจลวุ้นใส ตกมาจากท้องฟ้าไร้ที่มา พากันเชื่อว่าเป็นสิ่งประหลาดและกราบไหว้ขอลอตเตอรี่กันต่างๆนานา ก่อนจะถูกเปิดเผยถัดมา ว่ามันเป็นเพียงแค่เจลลดไข้… แค่นั้น
ฟรอยด์ – ณัฏฐเหล่ากอ ชาติเหล่ากอ เล่นบทพระเอก “สมหมาย” ปะทะแข่งขันกับ พีค – ประเสริฐศยา เครือกาญจน์ศรี ที่เล่นบท “หมูแดง” ฝ่ายแรกเป็นลูกชายของบ้านกิจการน้ำแข็งโคตรสะอาด กับอีกคน เป็นบุตรสาวของบ้านกิจการซาลาเปา สองบ้านที่มีพ่อบ้านผู้ไม่ถูกชะตากัน แม้กระนั้นลูกชายลูกสาวรักกัน มีศัตรูคนเดียวกัน ในวันที่ความสับสนยังดำเนินอยู่ จู่ๆเจลลดไข้ก็เปลี่ยนเป็นกระแส
ความเจลไม่ทันหาย ความเอเลี่ยนก็เข้ามาแทรก เจลลดไข้ที่เค้าหน้าเหมือนอสูรกายนอกโลก และอสูรกายนอกโลกที่เค้าหน้าเหมือนเจลลดไข้ ทำให้สองบ้านที่ไม่ลงรอย กลับจำต้องมายุ่งเหยิงด้วยกัน เรื่องราวที่ดำเนินผ่านมุขฮาๆพระเอกบ้ากาม นางเอกฟั่นเฟือน เรื่องราวที่ยังซ่อนเร้นไม่ควรบอกให้ทราบอีกเพียบเลย
ในความรู้สึก หนังทำหน้าที่ได้ดีในแง่ของความเป็นหนังตลก แถมพวกเรายังได้เห็นว่าพีคก็แสดงบทฟั่นเฟือนออกมาฮาใช้ได้ สำหรับผู้ที่เครียดๆและต้องการมาความเครียดลดลงในโรงหนัง จัดว่ากระดึ๊บทำหน้าที่นั้นให้คุณได้ แม้กระนั้นถ้ามุ่งมาดให้มีแง่คิดลึกซึ้ง หนังมีบ้างแม้กระนั้นไม่มากเท่าไรนัก

ในขณะที่ในส่วนของ CG เจ้าตัว “กระดึ๊บ” ที่ดูแลโดยทีมกันตนา จัดว่าทำออกมาได้ดีพอสมควร การประกอบภาพทำได้ค่อนข้างจะโอเค อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีบ้างบางช็อตที่ยังไม่เนียนพอ แม้กระนั้นในแง่ของการให้แสงเงากับเจ้าตัวประหลาดนี้ ก็จัดว่าถูกใจ

1. 13 Beloved

ท่านผู้ชมทั้งหลาย ที่เข้ามารับดู กันในวันนี้นั่นเอง และก็เหมือนเคย ที่ผมจะนำ หนังดีๆมาฝาก ให้ได้รับดูกัน และหากท่าน เป็นคนชอบดูหนัง ที่ชอบดูหนัง ไม่ว่าจะเป็นหนัง ในแนวโรแมนติก แนวดราม่า แนวไซไฟ แนวบู๊แอคชั่น และอื่นๆอีก มากนั่น ผมก็จะหา หนังมาให้แด่ท่าน ได้รับดูกัน อย่างต่อเนื่องเลย ประการแรกเลย จำต้องขอบอก ก่อนเลยว่า ส่วนตัวผมเองนั่น
เป็นผู้ที่ชอบ ดูหนังเป็น อย่างมากเลย ซึ่งในทุกวัน ก็จะหาหนังมอง อย่างต่ำนั่น วันละเรื่อง แม้กระนั้นพอนานๆเข้า หนังใหม่ๆนั้น ก็มองกระทั่งหมดแล้ว ก็เลยหาหนัง ที่เป็นหนังเก่าๆมอง ก็เลยไปเจอ อยู่เรื่องหนึ่ง ที่เป็นหนังไทย และเป็นแถวสยองขวัญ ซึ่งจำต้องขอบอก
ว่าผมเองนั้น เป็นผู้ที่ชอบ ดูหนังประเภทนี้ อยู่แล้วนั่นเอง และเป็นหนัง ที่เคยมองกัน ในยุคเก่า และในวันนี้ จึงขอมาแนะนำ ให้แด่ท่านที่ บางทีอาจจะยัง เกิดไม่ทัน หรือบางทีอาจจะ ยังไม่เคยมอง มาฝากให้แด่ท่าน ได้รับดูกัน และหนังที่ผม จะนำมารีวิว ให้แด่ท่านได้รับดู
กันในวันนี้ ก็คือเรื่อง”13 เกมสยดสยอง” นั่นเองนะครับ ซึ่งหากท่าน เป็นคนภายในสมัย 90 แล้วละก็ คงจะผ่านหู ผ่านตากันมา บ้างแล้วกับหนัง เรื่องนี้นั้นเอง ซึ่งเป็นหนัง ที่ทำออกมา ได้อย่างเหมือนจริง และในแต่ละฉากนั้น ก็ทำออกมาได้ อย่าน่าขนลุก ซึ่งในสมัยนั้น
จัดว่ายังไม่มี เทคโนโลยี ในการสร้างภาพยนตร์ มากสักเท่าไหร่ แม้กระนั้นก็สามารถ ทำออกมาได้ อย่างดีเยี่ยมเลย และตัวดารา ก็เล่นได้ สมหน้าที่ ได้ดีจริงๆอีกด้วย จึงทำให้ หนังเรื่องนี้ มีกระแสตอบรับ ที่ดีเยี่ยมๆในสมัยนั้น และผมก็จะ นำข้อมูลของหนัง
เรื่องนี้มาฝาก ท่านคนชอบดูหนังทั้งหลาย ได้รับรู้กัน หนังเรื่อง”13 เกมสยดสยอง” หรือที่มีชื่อ เป็นภาษาอังกฤษว่า “13 Beloved” ซึ่งหนังเรื่องนี้ เป็นหนังแนวระทึกขวัญ ซึ่งได้มีผู้กำกับ อย่าง ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล ซึ่งท่านหลายๆคน คงจะรู้จัก กับเขากันเป็น
อย่างดีกับผลงาน ที่ได้สร้างภาพยนตร์ ออกมาให้แด่ท่าน ได้รับดูกันเรื่อยซึ่งหนังเรื่องนี้ ได้ถูกปรับเปลี่ยน มาจากเรื่อง”13th Quiz Show” ซึ่งแต่ก่อนนั้น ได้ถูกทำมาเป็น ในหนังสือการ์ตูน มาก่อนนั้นเอง และก่อนที่จะ จะสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ ออกมานั่นได้
เคยทำหนังสั้น ออกมาก่อน อย่างเรื่อง11 (หรือ Earthcore)และ12 Begin และเรื่อง14 Beyond และได้สร้างภาพยนตร์ เรื่องนี้ออกมาต่อกัน ซึ่งได้มีการ ฉายในประเทศ ในวันที่ 5 เดือนตุลาคม พุทธศักราช 2549 ซึ่งใช้งบประมาณ ในการสร้างภาพยนตร์ 13 ล้านบาท
แม้กระนั้นเห็นผลผลกำไร จากคนชอบดูหนัง ทั่วประเทศไปถึง 119 ล้านบาท และดารา ของหนังเรื่องนี้ ก็จะมีกฤษดา สุหีบศพล หรือน้อยวงพูล ที่ไม่ว่าเขาแสดง เรื่องไหนก็แสดงได้ อย่างสมหน้าที่มาก และเล่นบทเป็นภูเขาชิต ซึ่งหนังเรื่องนี้ ยังได้ออกฉาย ไปที่ต่างประเทศ
ไม่ว่าจะเป็นในสิงคโปร์ และญี่ปุ่น ในช่วงเดือน เดือนมิถุนายน พุทธศักราช 2550 และได้ฉายใน Puchon International Fantastic Film Festival ที่ประเทศเกาหลี ซึ่งเรียกได้ว่า เป็นหนังที่มีชื่อเสียง อีกเรื่องหนึ่ง ของหนังไทยอีกด้วย และหนังเรื่องนี้
ก็ได้รับรางวัลต่างๆมากมายก่ายกอง ดังเช่นว่า รางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์ ครั้งที่ 16 และรางวัลพระราชทานพระสุรัสวดี ครั้งที่ 28 รายปี พุทธศักราช 2549 และยังมีรางวัล หนังไทย สัมพันธ์วิภาควิจารณ์บันเทิง ครั้งที่ 15 และยังมีได้รางวัล

เอซี มิลาน ถูกหยุดความร้อนแรงชนะรวดไว้ที่ 4 นัด หลังเจอ โรม่า สวมหัวใจหมาป่ายิงตีเสมอ 3 ครั้ง 3 ครา ก่อนเจ๊ากัน 3-3 แบ่งแต้มกันแบบสุดมัน กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี เมื่อคืนวันที่ 26 ตุลาคม ที่ผ่านมา

กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี
เอซี มิลาน 3-3 โรม่า

บิ๊กแมตช์ มันเดย์ ไนท์ เอซี มิลาน หัวหน้าฝูงมี 12 แต้ม เปิดรังพบ โรม่า อันดับ 9 มี 7 แต้ม เกมนี้ “ปีศาจร้ายแดงดำ” มีลูกพี่ใหญ่ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ล่าตาข่าย ส่วน “สุนัขป่า” ส่ง เอดิน เชเก๋ ลงไปวัดคมและก็มี เปโดร กับ เฮนริค มคิทาร์ยาน ทำเกมบุก

เริ่มเพียงแค่ 2 นาที มิลาน นำอย่างว่องไว ราฟาเอล เลเอา ยกบอลเข้าเขตโทษให้ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช จิ้มบอลหนีนายประตูเข้าไป 1-0 ทว่า นาที 14 โรม่า ทวงคืนเช่นกัน บอลจากเตะมุม ลอเรนโซ เปลเยกรินี เปิดมาให้ เอดิน เชเก๋ กระแทกโล่งเตียนๆไร้คนประกบ ตีเสมอ 1-1

มิลาน เล่นดีมากกว่า นาที 22 ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ติดคืนหลังให้ ฮาคาน คัลฮาโนกลู จับแล้วซัดจากแถวสองแม้กระนั้นบอลหลุดกรอบเล็กน้อย ถัดมา นาที 42 มิลาน ได้ฟรีคิกระยะมีลุ้น ฮาคาน คัลฮาโนกลู วิ่งอ้ามากดสุดแรงเกิดแม้กระนั้น อันโตนิโอ มิรันเต้ ซูเปอร์เซฟปัดทิ้ง จบครึ่งแรกเท่ากันฝั่งละลูก

ช่วงหลัง นาที 47 เจ้าของบ้านได้เม็ดสอง ราฟาเอล เลเอา จ่ายเข้าทางปืน อเล็กซิส เซเลเมเกอร์ส กดด้วยขวาเข้า 2-1 แล้ว นาที 69 โรม่า ได้จุดลูกโทษหลัง เปโดร พบย่ำเข้าไปที่เท้า จอร์แดน เวเรตูต์ เอาบอลวางแล้วซัดเองตีเสมออีกรอบ 2-2

ทว่า นาที 78 มีจุดลูกโทษเกิดขึ้นอีกในฝั่ง มิลาน เมื่อ ฮาคาน คัลฮาโนกลู โดนสกัดหนักแล้ว ซลาตัน อิบราฮิโมวิช สังหารไม่พลาดนำอีก 3-2 แม้กระนั้นนาที 83 สุนัขป่า ไม่ยอมแพ้ตีเสมออีกแล้ว จังหวะเตะมุม บอลหลุดมาถึง ทาราช คุมบุลล่า ชาร์จจ่อๆไม่เหลือ 3-3

ท้ายเกม นาที 94 มิลาน วืดประตูชัย ฮาคาน คัลฮาโนกลู เปิดลูกเตะมุมเข้าหัว อเลสซิโอ โรมาโนลี ชนเน้นๆแม้กระนั้นหลุดเสาสองโชคร้าย ในที่สุดไม่มีประตูแล้ว จบเกมเสมอแบ่งแต้มกันสุดมัน

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองกลุ่ม
เอซี มิลาน – ซิเปรียน ทาทารูซานู, อเลสซิโอ โรมาโนลี, ไซมอน เคียร์, ธีโอ เฮร์นานเดซ, ดาวิเด ติดอยู่ลาเบรีย, ฮาคาน คัลฮาโนกลู, แฟรงค์ เคสซีย์, อิสมาเอล เบนท้องนาเซอร์, ราฟาเอล เลเอา, อเล็กซิส เซเลเมเกอร์ส, ซลาตัน อิบราฮิโมวิช
โรม่า – อันโตนิโอ มิรานเต้, อิบาเนซ, มาราช คุมบุลล่า, จานลูก้า มันชินี, จอร์แดน เวเรตูต์, ลอเรนโซ่ เปลเยกรินี, ลีโอท้องนาร์โด สปิท้องนาซโซล่า, ริค คาร์สดอร์ป, เอดิน เชเก๋, เปโดร, เฮนริค มคิทาร์ยาน

เชื่อว่ายังมีอีกหลายคนที่ยังคิดว่า ‘หนังอินเดีย’ จะต้องเต้นระบำจีบกันข้ามภูเขาหลายลูก หลายคนมองข้ามวงการ ‘บอลลีวู๊ด (Bollywood)’ ที่สามารถผลิตหนังได้มากที่สุดในโลกในเเต่ละปี (ประมาณ 800-1000 เรื่อง) ทั้งที่หนังอินเดียหลายเรื่องนั้นยอดเยี่ยมจนถูกยกให้เป็นตำนานของวงการภาพยนตร์ ไม่ว่าจะเป็น 3 Idiots หรือ PK ที่กล้าหยิบยกประเด็นที่ไม่มีใครกล้าเเตะมาบดซะเเหลกละเอียดกันเลยทีเดียว

5. Dangal (2016)

ทำความรู้จักกับเนื้อหาก่อนรับชม
Dangal สร้างจากเรื่องของของนักมวยปลุกปล้ำชายอย่าง Mahavir Singh Phogat(สวมบทบาทโดย อาภรรยาร์ ข่าน) เป็นอดีตเป็นนักมวยปลุกปล้ำที่มีความเข้าใจจากเมืองเล็กๆในรัฐหรยาณา ที่ได้รับรางวัลเหรียญทองระดับประเทศ แต่จะต้องละทิ้งกีฬามาปฏิบัติงานหาเลี้ยงตัว เพราะเหตุว่าการกีฬาในประเทศอินเดียยุคนั้น ย้อนไปไป 20-30 ปี รัฐบาลมิได้ใส่เท่าไรนัก หนึ่งเพราะเหตุว่าไม่คิดว่าจะมีนักกีฬาประเทศอินเดียคนไหนกันแน่สร้างชื่อได้ สอง ผลจากข้อแรก ทำให้แวดวงกีฬาไม่สามารถที่จะพัฒนาพนักงานดีๆได้ ซึ่งทั้งคู่ข้อทำให้แวดวงกีฬาแทบไม่มีเงินมาอุดหนุน แปลงเป็นว่าวงการกีฬาของประเทศอินเดียถูกหันหลังให้โดยรัฐอยู่นาน หากว่ารัฐบาลจะไม่แยแสแวดวงกีฬามากเท่าไร แต่มหาเวียร์ สิงมีความฝันว่าซักวันหนึ่งจะมีผลให้ประเทศอินเดียได้แชมป์ระดับนานาชาติให้ได้ ด้วยเหตุนี้เลยมุ่งมาดว่าลูกที่โตขึ้นมา จะทำฝันให้เป็นจริงแทน แต่ลูกที่เกิดมาดันเป็นผู้หญิงหมดทั้งสี่คน … ความมุ่งหวังของมหาเวียร์เสมือนมอดกับไปในพริบตา แต่ความมุ่งหวังของมหาเวียร์ ก็มิได้หมดลงพลาดท่าเดียว เพราะเหตุว่าวันดีคืนดี ลูกผู้หญิงดันไปต่อยตีกับเด็กชาย แกเลยเกิดปิ๊งไอเดียว่า เราก็เอาลูกสาวเรามาเล่นมวยปล้ำดิวะ … เรื่องเลยเกิดขึ้นนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

4. Baahubali 1 (2015)

คนใดถูกใจดูหนังอิงงทั้งหลายแหล่ รับประกันไม่ผิดหวังกับหนังทุ่มทุนของประเทศอินเดียประเด็นนี้ ซึ่งบางทีอาจเบียดตำนานอิงงฝั่งยุโรป หรือจีนให้อึ้งได้สบายย
เกิดเรื่องราวของ ประเทศอินเดียสมัยโบราณ ยุคอาณาจักรมหิธมาตีช่วงทีมีบัลลาลาเทวะปกครอง เรื่องเกิดขึ้นเมื่อทารกน้อยถูกช่วยเหลือไว้ ภายหลังที่หญิงสาวคนหนึ่งได้เสียสละตน ชางก้าได้รับเด็กคนนั้นเป็นลูกรวมทั้งตั้งชื่อว่าศิวะ เมื่อตอนยังเด็กศิวะมีความปรารถนาต้องการจะป่ายปีนไปบนยอดดอยศักดิ์สิทธิ์นั้นคราวแล้วคราวเหล่าเขาก็ยังป่ายปีนไปไม่ถึง วันหลังทีศิวะเจอหน้ากากไม้ที่ไหลมาจากเบื้องบน เขาก็ทำสำเร็จรวมทั้งได้มาพบกับเจ้าของหน้ากากรวมทั้งล่วงรู้ความเป็นจริงในเรื่องอดีตของตน
หนังทำเป็นเยี่ยมยอดตั้งแต่เนื้อเรื่องเปิดเรื่อง,เดินเรื่องรวมทั้งที่สำคัญเป็นโทนเรื่อง ซึ่งล้นดี!ด้วยหน้าที่ทีเกินมนุษย์ของผู้แสดง ทั้งเนื้อเรื่องยังคงใช้วิธีเดินเรื่องเหมือนตำนานเก่าอย่างการเสี่ยงอันตรายของทวยเทพ หรือมนุษย์ครึ่งเทพ ทำให้เรารู้สึกเสมือนนั่งฟังเรื่องเล่าตำนาน จากปากนักเล่านิทานจริงๆอย่างพวกโฮเมอร์ หรือกวีโบราณอื่นๆ

3. Special 26 (2013)

Special 26 เป็นภาพยนตร์ประเทศอินเดียปี 2013 ความยาว 2 ชม. 16 นาที เรท 13+ แนวดราม่า อาชญากรรม ตื่นเต้น ตลกขบขันร้าย แสดงนำโดย Akshay Kumar (อักษัย กุมาร) ดูแลโดย Neeraj Pandey (นีราจ แพนดีย์) ผู้สร้าง ผู้กำกับ นักเขียนบทที่โล่งแจ้งเกิดกับหนังเรื่อง A Wednesday หนังทริลเลอร์ปี 2008 ที่กวาดรางวัลมาล้นหลาม Special 26 มีแรงผลักดันมาจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในปี 1987 โดยมีกลุ่มนักต้มตุ๋นปลอมตัวเป็น Central Bureau of Investigation (CBI) หรือ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางนั่นเอง ได้แสดงตัวที่ Opera House (โอเปร่า เฮ้าส์) ในมุมไบ เพื่อทำงานตรวจค้นเพชรนิลจินดาสำหรับตรวจสอบภาษีเงินได้ ซึ่งเป็นคดีความที่ไม่สามารถที่จะปิดได้

2. Umrika (2015)

หลังจากพี่ชายเดินทางไปอเมริกาด้วยความภาคภูมิของคนภายในหมู่บ้านยากจนแสนห่างไกล โดยยิ่งไปกว่านั้นบิดามารดา จดหมายจากอเมริกาก็ถูกส่งมาตลอดมิได้ขาด กระทั่งผ่านไปนับเป็นเวลาหลายปี เมื่อบิดาเสียไป ดารานำชายผู้เป็นน้องชาย (Suraj Sharma) ก็ได้ค้นพบความลับของจดหมายเหล่านั้นรวมทั้งเดินทางไปมุมไบเพื่อจะหาวิธีเดินทางไปอเมริกาไปตามหาพี่ชาย (Prateik Babbar)
ที่มุมไบ เขามิได้มีชีวิตที่ดีนัก บากบั่นหางานทำ จะไปขอเป็นเด็กส่งของก็ไม่มีจักรยานกระทั่งจะต้องไปลักขโมยมา ดีที่มีเพื่อนแท้ (Tony Revolori) รอเคียงข้างตลอด
หนังดีเลย ถูกใจความเชิดชูอเมริกาเปรียบเสมือนเป็นดินแดนแห่งความฝัน เพราะเหตุว่าลุงของดารานำชายเคยไปอยู่จนได้ดิบได้ดีกลับมามีเงินทองล้นหลาม แต่วิถีทางจะไปถึงฝั่งฝันมิได้ได้มาโดยง่ายสำหรับครอบครัวที่ยากจนแบบดารานำชาย จริงๆจุดหักเหของหนังก็มิได้เกินคาดเดานัก แต่เราถูกใจการตัดสินใจของดารานำชายเมื่อได้ทราบความเป็นจริง เขายึดมั่นจะทำความฝันของแม่ให้เป็นจริงขึ้นมาให้ได้
มองจบแล้วแอบเสียดายที่หนังเลือกที่จะจบลงอย่างนี้ มันไม่ชัดแจ้งกระทั่งทำให้เกิดความรู้สึกซึมเซารวมทั้งแอบหม่นหมองชอบกล ดารานำชาย Suraj Sharma เป็นน้องที่เล่นบทนำใน Life of Pi โตแล้วหล่อมาก เล่นดีด้วย ส่วนเพื่อนฝูงดารานำชาย Tony Revolori ก็คือ bell boy ใน The Grand Budapest Hotel

1. Haraamkhor (2015)

เรื่องราวดราม่าชีวิตของคุณครูที่ลักลอบได้เสียกับเด็กนักเรียนของตัวเอง
เรื่องมันซึมเซาๆนะ เพราะเหตุว่าเด็กที่ถูกฝ่าฝืนเนี่ย ยังไม่รู้จักกับความรักเลย แต่ดันมีความคิดว่า การที่ครูทำอย่างนี้เป็นความรัก รวมทั้งครูเองก็มีภรรยาอยู่แล้ว ซึ่งภรรยาเนี่ยก็เคยเป็นเด็กนักเรียนของเขาอย่างเดียวกันอีก โอ้ย อีครูเวร
ไปดูเองว่าเรื่องราวจะจบยังไง
หนังอาร์ตๆหน่อย พูดน้อย ไม่ถูกจริตนี่ บอกกงๆว่ากดมองเพราะเหตุว่า nawazudin เจ้าพ่อ Gaitonde ใน Sacred games เหตุผลเดียวเลย

รวม ซีรีส์จีน กำลังภายใน แบบวิจิตรตระการตาดาวล้านดวงที่คอซีรี่ส์ ที่เอฟเฟควิจิตรตระการตา ทั้งต่อสู้ เรื่องรักกุ๊กิ๊ก ก็มีครบ ไม่สมควรพลาดแน่นอน ใน จะมาชี้แนะซีรี่ส์เกี่ยวกับซีรีส์จีน กำลังภายใน หลายแนวครบรส เจอกับความมันส์ และก็ความเพลิดเพลิน ที่นำมาฝากทุกคนกัน ยืนยันว่าสนุกสนานและก็มันไปกับเรื่องราว ของวัฒรธรรมต่างๆของจีน ไปดูกันเลยว่ามีเรื่องอะไรกันบ้างมึน

7. Dance of the Phoenix

เรื่องย่อ : เฟิ่งอู่ สาวน้อยชาญฉลาดแห่งอาณาจักรจวินอู่ถูกจู่โจมจากศัตรู ทำให้เธอสูญเสียเลือดนกเฟิ่งหวงและก็แปลงเป็นมนุษย์ปกติ มู่จิ่วโจวเพื่อจะช่วยเหลือเฟิ่งอู่ไว้ เขาได้ใช้พลังไปเยอะแยะเกินขนาด จนถึงทำให้เขาแปลงเป็นพระราชโอรสนิทรา ช่วงเวลาเดียวกันอีกโลกๆหนึ่ง ซึ่งเป็นโลกในยุคปัจจุบัน เมิ่งหยวน สาวคณะแพทย์ศาสตร์ กำเนิดหลุดเข้าไปในอีกมิติหนึ่งและก็ได้แปลงเป็นเฟิ่งอู่ มิหนำซ้ำยังมีคำสัญญาการสมรสกับองค์ชายจวินหลินหยวนแห่งอาณาจักรจวินอู่ ในขณะที่อยู่ในร่างของเฟิ่งอู่นั้น เมิ่งหยวนได้ใช้ความสามารถวิชาความรู้ความรู้ความเข้าใจด้านการแพทย์ของเธอที่ทำความเข้าใจจากโลกศตวรรษที่ 20 มาประยุกต์ใช้ป้องกันรักษาผู้คนในอีกมิติหนึ่ง เธอแปลงเป็นคู่ซี้ของจวินหลินหยวน จนถึงค่อยๆกำเนิดความรู้สึกดีๆต่อกัน จนถึงแปลงเป็นความรัก เรื่องราวของเมิ่งหยวนในร่างเฟิ่งอู่จะเป็นเยี่ยงไรต่อไป เธอกับจวินหลินหยวนจะได้สมหวังกันหรือไม่

6. Love and Redemption

เรื่องย่อ : ตามตำนานเทพแห่งการศึกช่วยสรวงสวรรค์สำหรับเพื่อการต่อสู้กับผีสางเมื่อพันปีกลาย ทั้งคู่ตกลงมาจากสรวงสวรรค์และก็หายไปจากโลก บุญยก Xuanji เกิดขึ้นมาในโลกที่ขาดประสาทสัมผัสทั้งหกซึ่งทำให้เธอไร้เดียงสาและก็ไร้ความสามารถ เธอเป็นเพื่อนกับ Yu Xifeng ศิษย์หัวหน้าที่โดดเด่นของ Lize Palace ที่หลงรักเธอฉะนั้นก็เลยเริ่มต้นความรักของเซียนเซียที่เข้ามาข้องแวะกับการสมคบคิดในอดีตกาล การแข่งขัน Zanhua นั้นจัดขึ้นที่ Shaoyang Sect และก็ผู้นำของ Chu Lei นั้นมีลูกสาวสองคนคือบุตรสาวคนโตของเขา Chu Linglong และก็บุตรสาวคนสุดท้องของ Chu Xuanji ที่ขี้คร้านและก็น่ากลัวในศิลป์การต่อสู้ เมื่อ Yu Sifeng และก็ Chu Xuanji เจอกันโดยบังเอิญพวกเขาได้สร้างมิตรภาพซึ่งกันและกัน Yu Sifeng ตกหลุม Xuanji แม้ว่าจะทำให้เกิดผลเสียร้ายแรงที่เขาต้องพบเจอเพราะว่าห้ามมิให้เด็กนักเรียนของ Lize Palace หลงรัก ในขณะเดียวกัน Linglong ก็ปะทะกับ Wu Tong ภายหลังที่เธอวิจารณ์การกระทำที่ไม่เหมาะสมของเขาสำหรับเพื่อการแข่ง สำหรับเพื่อการโต้ตอบวูตงรังควานซวนจิและก็ขับไสออกโดยไม่เจตนา จากการบาดเจ็บของเธอ Xuanji คำสัญญาว่าจะสนใจกับการปลูกฝัง สี่ปีถัดมา Xuanji และก็ Yu Sifeng เจอกันอีกครั้ง Sifeng สวมหน้ากากเหตุเพราะคำสาปแช่งซึ่งสามารถถูกทำลายได้ก็เมื่อเขาเจอรักจริง

5. My Dear Destiny

เรื่องย่อ : ในช่วงเวลาของยี่มนุษย์เผ่าหมาป่าและก็แม่มดอาศัยอยู่ร่วมกันอย่างอันตรายบนดินแดนจางโจว หญิงสาวผู้ศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าแม่มด Mi Qi Qi ถูกส่งไปยังโลกมนุษย์โดยหัวหน้าของเธอจากเผ่าแล้วก็เกี่ยวพันกับการต่อสู้ของฮาเร็มของกษัตริย์ Lu Ao ท้ายที่สุดทั้งคู่ก็ร่วมมือกันเพื่อทำให้ความระส่ำระสายในสามเผ่าสงบลง

4. The Song of Glory

เรื่องย่อ : ชาติได้จมดิ่งลงสู่ความโกลาหลและก็จักรพรรดิ Liu Yilong สาบานที่จะออกกฎหมายปรับปรุงเพื่อให้ราษฎรของเขาดีขึ้น เขาได้เจอกับเชนชางจ์ซึ่งเป็นผู้หญิงใจดีที่มีหัวหัวใจขมักเขม้นอย่างไม่จำกัด เพื่อช่วยเหลือประเทศของเธอ ร่วมกันทั้งคู่ใช้สติปัญญาของพวกเขาเวลาที่พวกเขาต่อสู้กับหนึ่งในกรุ๊ปที่มีอำนาจสูงที่สุดคือ ตระกูล Lu

3. Ashes of Love

เรื่องย่อ : ซีรีส์โรแมนติกแฟนตาซีย้อนยุค ปรับเปลี่ยนมาจากนิยายชื่อเดียวกัน ซีรีส์เรื่องนี้เป็นที่นิยมเป็นลำดับหนึ่งที่จีนในปี 2018 และก็ยังได้ผลงานสร้างชื่อให้กับนักแสดงนำอย่าง หยางจื่อ (Yang Zi) และก็ เติ้งหลุน (Deng Lun) “น้ำอ้อยหวานล้ำ สลายเป็นขี้เถ้าราวเกล็ดน้ำค้าง” เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นจากการถึงแก่กรรมของนางฟ้าดอกไม้ซึ่งเห็นอนาคตของ “จิ่นมี่” (หยางจื่อ) บุตรสาวของตนว่าจะเจอเคราะห์อันเกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากความรักในอีกหมื่นปีด้านหน้า ก็เลยเสกยาไม่มีรักใส่เอาไว้ข้างในหัวใจหัวใจของจิ่นมี่ ทำให้จิ่นมี่ไม่รู้จักความรัก จนถึงวันหนึ่งจิ่นมีก็ได้เจอกับ “เฟิ่งหวง” (เติ้งหลุน) เทพการศึกวิหกเพลิงที่บังเอิญตกลงมาในกำแพงแก้วที่แม่ของจิ่นมี่สร้างไว้ ทำให้ทั้งคู่ได้เจอกันและก็กำเนิดความรักในเวลาถัดมา แต่โชคชะตากลับไม่เป็นใจทำให้ทั้งคู่พลัด จิ่นมี่(หยางจื่อ)และก็เฟิ่งหวง(เติ้งหลุน)จะฝ่าฝันเคราะห์รักคราวนี้ไปได้หรือไม่

2. Love in Between

เรื่องย่อ : ในยุคที่ชาติบ้านเมืองโกลาหลยุทธภพเข้าสู่ยุคมืด เพื่อจะตามหารูปภาพภาพหนึ่งคืนมาก็เลยทำให้จั่วชิงฉือและก็เฟยโข้วเอ๋อร์ได้เจอกัน ทั้งคู่ค่อยๆไขปัญหาในยุทธภพ เปิดเผยความลับของประวัติศาสตร์ ประสานมือกันขจัดความระส่ำระสายของชาติบ้านเมือง การพบเจอเป็นจุดเริ่มแรกของของความรัก ถ้าว่าดูราวกับว่าสิ่งที่อยู่ใกล้แค่เอื้อม กลายเป็นสิ่งที่ทำเป็นเพียงนึกหา แต่ไม่สามารถที่จะครอบครอง

1. Qing Qing Zi Jin

เรื่องย่อ : ในตอนวงศ์สกุลถัง ยุคเฟื่องฟูของบทประพันธ์ ‘ลั่วชิวฉือ’ เด็กวัยหนุ่มผู้ขมักเขม้นจะเป็นสุดยอดนักกวี ผ่านการแข่งขันต่างๆจนได้เข้ามาศึกษาในสำนักจู๋ซิ่ว สำนักที่ก่อขึ้นจากวังหลวงเพื่อฝึกฝนเหล่าประพันธ์โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ที่นั้นเขาได้เจอสหายล้นหลาม ทำความเข้าใจ ผจญเรื่องราวต่างๆผ่านบทประพันธ์ นำพาบทประพันธ์รูปแบบใหม่สู่ต้าถัง