เพจเจ๊มอย 108 ออกมาโพสต์ ข้อความจากลูกเพจ ที่เข้ามาถามถึงความสัมพันธ์ มารี เบิร์นเนอร์-พิชญ์ กาไชย ตอนนี้แฟนคลับฝ่ายหญิงเชียร์หนัก แถมสตอรี่ไอจีของทั้งคู่ก็ลงอะไรใกล้กัน

จับตาชมรม มารี-พิชญ์ กาไชย / ดาราสาวเนื้อหอม มารี เบิร์นเนอร์ เคยออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ชายหนุ่ม พิชญ์ กาไชย เป็นคนที่รู้จักอยู่แล้ว เป็นคนในแวดวงสังคมเดียวกัน ข้างหลังมองเห็นไปกินข้าวด้วยกัน
แต่ล่าสุด ในเพจดัง เจ๊มอย108 ได้โพสต์ภาพที่มีแฟนเพจส่งข้อความมาถามเจ๊มอยว่า พิชญ์ กาไชย คบ มารี เบิร์นเนอร์ จริงไหม มองเห็นแฟนคลับของมารีเชียร์กัน แถมบอกให้ลองสังเกตุมองลงรูป ลงสตอปรี่ใกล้ๆกันตลอด

โดยเพจเจ๊มอยก็ได้โพสต์แคชั่นว่า ก็นู๋มารีบอกแล้วยังไงว่าเค้าเป็นเพียงแค่เพื่อนกัน เฮ่อ!! เอ๊ะ!! หรือในช่วงเวลานี้พัฒนาแล้ว บ้าๆบอๆ #อิพิมภรรยาพิชญ์กาไชย
ก็สรุปว่า จะพัฒนาตามที่หลายท่านคาดคะเนหรือไม่ จะต้องคอยให้สาวมารี รวมทั้งชายหนุ่มพิชญ์ ออกมาแจกแจงแถลงไขอีกที เพราะว่าในช่วงเวลานี้ด้านชายหนุ่มพิชญ์เอง ก็มีข่าวกระหนุงกระหนิงกับ สาวพิมฐา ด้วยเหมือนกัน
• ‘มารี’ ไม่เข็ดหลาบความรัก พร้อมเปิดใจ เมินหน้าตอบคนเก่า ยันเจอได้แต่ไม่มีอะไรจะต้องคุย
• จับตาความเกี่ยวพัน พิมฐา-พิชญ์ กาไชย์ ข้างหลังกลิ่นอินเลิฟกระจาย

JYP Entertainment ได้ออกคำอธิบายอย่างเป็นทางการ ถึงในกรณีที่สมาชิกทั้ง 7 คนของ GOT7 จะไม่ต่อสัญญากับสังกัดเดิม

ภายหลังจากวานนี้ (10 เดือนมกราคม64) สื่อดังประเทศเกาหลีใต้ ได้รายงานว่า บอยกลุ่มชื่อดังอย่าง GOT7 มีสมาชิกประกอบไปด้วย เจบี (JB), มาร์ค (Mark), แจ็คสัน (Jackson) , จินยอง (Jin Young) , ยองแจ (Young Jae) , แบมแบม (BamBam) แล้วก็ ยูคยอม (Yugyeom) ตกลงใจที่จะไม่ต่อสัญญากับทางสังกัดเดิม JYP Entertainment แล้วก็มีกระแสข่าวว่าสมาชิกแต่ละคนจะแยกทำงานผู้เดียว

ด้านสมาชิกทั้ง 7 คน ได้ออกมาโพสต์อินสตาเอ็งรมด้วยรูปวง พร้อมติดแฮชแท็ก #GOT7FOREVER ด้าน มาร์ค ได้โพสต์ใจความผ่านทางทวิตเตอร์ว่า “7 ปีให้หลังเป็นตอนๆในช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมในชีวิตผม ไม่มีอะไรหมด เป็นเพียงจุดเริ่มต้น พวกเราทั้ง 7 คนจะยังคงพรีเซนเทชั่นตัวเราในแบบที่ยอดเยี่ยมให้พวกคุณจนกระทั่งจุดจบ” ท่ามกลางการส่งแรงใจจากเหล่า อากาเซ (ชื่อแฟนคลับอย่างเป็นทางการ) ที่ส่งให้พวกเขาจนถึงติดเทรนด์ชั้น 1 ทวิตเตอร์โลก

ล่าสุดวันนี้ (11 เดือนมกราคม64) ทาง JYP Entertainment ได้ออกมารับรองว่า GOT7 จะหมดสัญญาการเป็นนักแสดงภายใตขึ้นตรงต่อค่ายในวันที่ 19 ม.ค.นี้ แล้วก็ทางเพจ JYP Thailand Official ได้เจาะจงใจความถึงเรื่องดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วว่า

“สวัสดีขอรับ JYP Entertainment ขอรับ”

ทาง JYP ได้ปรึกษาหารือและขอคำแนะนำให้รอบคอบร่วมกับเหล่าเมมเบอร์ เกี่ยวกับประเด็นการหมดอายุข้อตกลงของนักแสดง GOT7 ในวันที่ 19 ม.ค.ที่จะถึงนี้ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โดยได้ข้อสรุปว่า

JYP และเหล่าเมมเบอร์ ทั้งสองฝ่าย ต่างปรารถนาดีต่อกันถึงก้าวใหม่ในอนาคตที่ดีขึ้น และได้เห็นพ้องต้องกันว่า จะไม่ต่ออายุสัญญาออกไป

หลัง GOT7 เดบิวต์เมื่อวันที่ 16 มกราคม ปี 2014 พวกเขาได้ทำกิจกรรมโปรโมทในฐานะวงไอดอลระดับโลกที่เป็นตัวแทนของ K-POP ตลอด 7 ปีที่ผ่านมา

ขอขอบคุณ GOT7 จากใจจริง ที่อยู่ร่วมเติบโตไปพร้อมกับ K-POP และ JYP รวมถึงขอขอบคุณ ‘I GOT7’ ผู้ช่วยเป็นพลังขับเคลื่อนให้กับการทำกิจกรรมโปรโมทของ GOT7 มาตั้งแต่พวกเขาเดบิวต์ ด้วยแรงสนับสนุนและกำลังใจทั้งหมดที่มี

แม้ว่าความสัมพันธ์ในรูปแบบที่เป็นทางการจะสิ้นสุดลง แต่ JYP ขอเป็นกำลังใจให้กับอนาคตใหม่ที่ดีในวันข้างหน้าของเหล่าเมมเบอร์ GOT7 จากใจจริง”

ขอบคุณครับ

ผลบอล เชลซี 4-0 มอร์แคมบ์ (ไฮไลท์) : สิงโตสีน้ำเงินคราม เชลซี เรียกฟอร์มเก่งกลับมาได้อีกรอบ หลังส่งกลุ่มชุดผสมโชว์ฟอร์โหดเหี้ยมอัดมอร์แคมบ์ กลุ่มจากลีกทูไป 4-0 โดยตำหนิโม แวร์เนอร์ ทำประตูได้ภายหลังปืนฝืดมานาน ทำให้ผู้ร่วมทีมของแฟรงค์ แลมพาร์ด ผ่านเข้ารอบ 4 ศึกเอฟเอ คัพ อังกฤษ ถัดไป

สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์

เริ่มครึ่งแรกมา 3 นาที เชลซี ได้ลุ้นก่อน โดย ฮาคิม สิเย็ค เปิดโค้วมาในกรอบเขตโทษให้ ตำหนิโม แวร์เนอร์ ได้ขึ้นโหม่งจ่อๆแม้กระนั้นบอลโดนไม่เต็มหัวหลุดเสาซ้ายออกไป

นาทีที่ 12 เชลซีเกือบจะเสียปประตู เมื่อ อดัม ฟิลลิปส์ เลี้ยงบอลมาบริเวณริมเส้นฝั่งขวาแล้วเปิดบอลเข้ากลางแม้กระนั้นบอลติดไซด์ก้อยเปลี่ยนทางไปที่ประตู ยังดีที่ เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า กลับใจมารับได้ทัน

นาทีที่ 18 กองทัพสิงโตสีน้ำเงินครามขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย ส่งบอลเข้ากลางให้ เมสัน เม้าน์ท ยิงไกลด้วยขวาระยะไกลนอกกรอบ บอลพุ่งเรียดผ่านกิงหลังกลุ่มเยี่ยมไปทิ่มเสาอย่างสุดสวย

นาทีที่ 44 เจ้าของบ้านได้ประตูที่ 2 สิเย็ค โยนบอลมาทางเสาสองให้ ไค ฮาแวร์ทซ์ กระโจนโหม่งย้อนกลับมาเข้ากลางให้กับทาง แวร์เนอร์ วิ่งมาเข้าฮอสยิงจ่อๆหน้าประตูเข้าไปให้กลุ่มนำ 2-0

จบครึ่งแรก เชลซี นำ มอร์แคมบ์ 2-0

เริ่มครึ่งหลัง ในนาทีที่ 49 เชลซีบวกเพิ่มลูกที่ 3 จากจังหวะตักบอลไม่เห็นหัวแผงหลังของ สิเย็ค ให้ คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย วิ่งหลุดกับดักล้ำหน้า ก่อนจะดูดบอลลงด้วยซ้ายแล้วยิงด้วยขวาผ่านมือผู้เฝ้าประตูเข้าไปอย่างสวยงาม เชลซีนำห่าง 3-0

นาที 54 ฮาแวร์ทซ์ รับลูกส่งจาก แวร์เนอร์ มาอีกครั้ง แล้วทำยิงด้วยขวาบริเวณกลางกรอบเขตโทษ แม้กระนั้นทิศทางไม่ตรงกรอบหลุดเสาขวาออกไป สกอร์ยังคง 3-0

นาทีที่ 71 เชลซีเกือบจะทำคะแนนที่ 4 ได้ จากจังหวะ ผ่านบอลจากฝั่งขวาโดย เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า เข้ากลางให้ ฮาแวร์ทซ์ ซัดจ่อๆตรงตัวไปติดเซฟผู้เฝ้าประตู บอลกระเด้งออกมาเข้าทาง คริสเตียน พูลิสิช ที่ถูกส่งตัวลงมาในครึ่งหลัง วิ่งมายิงซ้ำจ่อๆด้วยขวาไปติดเซฟอีกรอบ

ในนาทีที่ 85 เจ้าของบ้านทำคะแนนหนีห่าง 4-0 อัซปิลิกวยต้า ครอสบอลจากริมเส้นฝั่งขวาเข้าไปกลางกรอบเขตโทษ แล้วก็เป็น ฮาแวร์ทซ์ ที่วิ่งมาเทคตัวขึ้นโหม่งเต็มๆตัวเข้าไปตุงตาข่าย เชลซีนำเพิ่ม 4-0

ต่อจากนั้นไม่มีประตูเพิ่มจบเกม เชลซี กระหน่ำ มอร์แคมบ์ 4-0 ผ่านเข้าไปเล่นเอฟเอ คัพ รอบ 4 ถัดไป

เชลซี : เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า, เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า, อันโตนิโอ รือดิเกอร์, คูร์ท ซูม่า (ฟิกาโย่ โทโมริ น.80) , เอแมร์ชอน ปัลมิเอปรี่, เมสัน เม้าน์ท, บิลลี่ กิลมัวร์, ไค ฮาแวร์ทซ์, ฮาคิม สิเย็ค (คริสเตียน พูลิสิช น.68), คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย (ฟาอุสติโน่ อันโยริน น.80), ตำหนิโม แวร์เนอร์ (โอลิวิเยร์ ชิรูด์ น.68)

มอร์แคมบ์ : มาร์ค ฮัลสเตด, ไรอัน คูนี่ย์ (เคลวิน เมลเลอร์ น.61), ทุ่งนาธาเนียล ไนท์-เพอร์ซิวาล, แฮร์รี่ เดวิส, สตีเว่น เฮนดรี้ (เลียม กิ๊บสัน น.61), แอรอน วิลดิก, ยันน์ ซงโก้เก๋, จอร์แดน สลูว์ (จอห์น โอซุลลิแวน น.61), อดัม ฟิลลิปส์, การ์ลอส เมนเดส (กางรดลี่ย์ ไลออนส์ น.74), โคล สต็อคตัน (เลียม แมคอาลินเดน น.86)

ดิไม่ทาร์ เบอร์บาโคนฟ และ ไมเคิล โอเว่น ออกโรงยุให้ เจสซี่ ลินการ์ด ย้ายออกจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพื่อคงจะรักษาทางอาชีพของตนเอาไว้ ซึ่งหากปลดปล่อยให้เป็นอย่างงี้ถัดไปมีแม้กระนั้นจะถอยหลังลง

ดิไม่ทาร์ เบอร์บาโคนฟ และ ไมเคิล โอเว่น สมัยก่อนสองผู้เล่นของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีความคิดเห็นว่า เจสซี่ ลินการ์ด กองกลางตัวลืมของ “อสุรกายแดง” ควรย้ายออกจากถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด หลังที่ผ่านมาแทบจะมิได้ลงเล่นให้สังกัดเดิมมากเท่าไหร่

ลินการ์ด เพิ่งจะได้ลงไปในสนามในเกม เอฟเอ คัพ ที่ แมนยู เอาชนะ วัตฟอร์ด 1-0 เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยนัดนี้เพิ่งจะเป็นการลงไปในสนามเกมที่ 3 ของเจ้าตัวในฤดูกาลนี้เพียงแค่นั้น โดยอีกสองเกมคือการลงเล่นในศึก คาราบาว คัพ ส่วนเกม พรีเมียร์ลีก และ แชมเปี้ยนส์ ลีก ลินการ์ด ไม่มีจังหวะสัมผัสเกมเลยสักครั้ง

ซึ่งในหัวข้อนี้เอง เบอร์บาโคนฟ ได้ให้สัมภาษณ์กับ แอสโตร สื่อกีฬาต่างถิ่นโดยบอกว่าเวลาของ ลินการ์ด กับ “อสุรกายแดง” หมดลงแล้ว “บอกตามจริงนะ เวลาของเขาหมดแล้ว”

“เขามิได้ลงเล่น เขาได้รับจังหวะเพื่อเฉิดฉาย, พิสูจน์ตัวเองว่าเขาดีมากแค่ไหน ไปแล้ว โอเล่ ไม่เชื่อมั่นในตัวเขามากพอที่จะส่งลงเล่น”

“และเอาตรงๆเลย เขาไม่มีที่ให้ลงเล่นเลยในกลุ่ม ณ ขณะนี้ ด้วยเหตุนี้ เมื่อคุณเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มมาเป็นมาเวลานาน กำลังจะอายุ 28 ปี คุณจำต้องมองดูย้อนกลับไปถามว่า -เจอการบรรลุเป้าหมายมามากพอหรือยัง? เป็นสุขกับสิ่งที่ทำที่นี่ไหม? แล้วหมดเวลาของพวกเราหรือยัง?-”

“ด้วยเหตุนี้ ผมมีความรู้สึกว่าเขาควรย้ายออกไป เขาจำต้องไปที่ใดสักที่เพื่อลงไปในสนาม”

“มันจะเป็นกลุ่มที่เล็กกว่า ยูไนเต็ด แม้กระนั้นเขาจะได้ลงเล่นเยอะขึ้นเรื่อยๆเพื่อกลับไปทำในสิ่งที่เขาสามารถทำได้ เนื่องจากผมจำในเวลาที่เขาลงเล่นให้ อังกฤษ แล้วทำประตูให้ อังกฤษ ได้”

“แม้กระนั้นขณะนี้มันผ่านไปแล้ว และเขาจำต้องค้นหาตัวเองใหม่เสมือนที่เขาเคยทำมาก่อนหน้านี้”
ขณะเดียวกัน โอเว่น สมัยก่อนหน้าแข้ง “อสุรกายแดง” ที่ผันตัวมาเป็นฉันรูก็มีความคิดเห็นเหมือนกับ เบอร์บาโคนฟ “เขาเข้ามาอยู่กับกลุ่มในเวลาที่ผมกับ เบอร์บาโคนฟ ยังอยู่ในกลุ่ม พวกเราเห็นปรับปรุงของเขา และเขาก็ก้าวมาสู่ขั้นที่มีอายุเยอะขึ้นเรื่อยๆ และจำเป็นที่จะต้องลงเล่นบ่อยๆในกลุ่มในช่วงอายุของเขา”

“เขาอยู่ที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาตลอด ด้วยเหตุนี้เขารู้สึกได้กับการเป็นผู้เล่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขณะนี้มันตรงเวลาที่จำต้องตัดสินใจกับชีวิต และในทางอาชีพของเขาว่า -นี่พวกเราต้องการจะอยู่เพื่อแค่เป็นส่วนหนึ่งของผู้เล่นในกลุ่มที่เป็นเยี่ยมในกลุ่มที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก หรือปรารถนาถอยหลังไปเพื่อได้ลงเล่นสม่ำเสมอ แม้กระนั้นไม่มีจังหวะที่จะคว้าแชมป์อะไรเลย?”

“หากเป็นผมแล้วล่ะก็ และผมใช้เวลากับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาตลอด ผมคงออกไปและมานะได้ลงไปในสนามบ่อยๆ”

แมนฯ ยูไนเต็ด จากการทำงานของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ตกรอบรองชนะเลิศบอลถ้วยอีกแล้วนะครับ

1. มองเห็นรายชื่อผู้เล่นตัวจริง ถือว่าจัดเต็ม เว้นเสียแต่ตำแหน่งผู้รักษาประตู ตอนต้นรู้เรื่องว่าผู้เป็นผู้จัดการทีมติดตั้งระบบ 4-3-1-2 ต่อเมื่อมองเห็นการยืนตำแหน่งในสนาม มันคือสูตร 4-2-3-1 ดังเดิมนั่นแหละ โดยให้ ปอล ป๊อกบา ออกไปเล่นในตำแหน่งหน้าซ้าย
นี่คือการหาที่ลงให้ตัวรุกค่าจ้าง 89 ล้านปอนด์ ในเรื่องที่ต้องการส่ง ‘แม็คเฟร็ด’ ลงคู่กันในแดนกลาง นอกนั้นการส่ง ‘คุณป๊อก’ ลงตำแหน่งนี้ยังสามารถยืดหยุ่นเป็นระบบ 4-2-2-2 แล้วก็ 4-3-1-2 ไปตามจังหวะได้อีกด้วย

2. นักฟุตบอลชนิดอสูรไม่ได้เจตนาย้ำเกมรับราวกับในหลายเกมที่พบทีมร่วมเมืองครับ ในขณะที่ทราบดีว่าเกมด้อยกว่าแน่ๆว่าแล้วหลังจากนั้นก็พากเพียรบีบสูงพลางพุ่งเข้าหาบอลเร็ว
เวลาเล่นเกมรุกก็พากเพียรใช้จังหวะฉาบฉวย อาศัยความแคล่วคล่องว่องไวของ มาร์คัส แรชฟอร์ด กับ อ็องโตนี่ มาร์กสิยาล
ปัญหาก็คือตัวสร้างสรรค์เกมอย่าง บรูโน่ แฟร์นันด์ส ทำบอลเสียในจังหวะสุดท้ายมากเกินความจำเป็นหน่อย

3. ครึ่งแรก ทีมสีฟ้าครองบอลมากกว่า ช่วงเวลาที่ทีมสีแดงหาจังหวะจบแบบได้น้ำได้เนื้อมากกว่า ถือว่าคืนดีกันคนละอย่าง
ทว่าช่วงหลังทีมสีฟ้าเหนือกว่าด้วยทีมเวิร์ค แล้วก็จังหวะสุดท้าย แถมชิงจังหวะขึ้นนำเร็วอีกต่างหาก
ส่วน แมนฯ ยูไนเต็ด บุกไม่ขึ้นสักเท่าไหร่ มิหนำยังเสียทั้งยัง 2 ประตู เพราะว่าคุ้มครองลูกตั้งเตะกันไม่ค่อยดีอีกแล้ว นี่คือสิ่งที่ต้องเปลี่ยนแปลง แล้วก็ปรับแต่ง
นี่ยังดีที่ แฮร์รี่ แม็กแกว่งร์ ถูกวิญญาณของ ริโอ เฟอร์ดินานด์ กับ เนมานย่า วิดิช เข้าสิงร่างก็เลยช่วยไม่ให้เสียประตูไปๆมาๆกกว่า 2 ดอก

4. ภายหลังโดนนำ 1-0 แล้วอาการกำเริบ ผมคิดว่าผู้จัดการทีมฟุตบอลใจเย็น แล้วก็สลับตัวช้าไปหน่อย เพราะว่าคงจะมองเห็นแล้วว่าเกมนี้ สก๊อตต์ แม็คโทมิเนย์ เล่นได้เพียงแค่พื้นๆไม่มีทีเด็ดอะไร กว่าจะส่ง เมสัน กรีนวู๊ด ลงมาแล้วขยับเอา ปอล ป๊อกบา มาเล่นกึ่งกลางก็นาทีที่ 75 เข้าไปแล้ว
อย่างไรก็ดี
เมื่อมองจากขั้นตอนการเล่นตั้งแต่นาทีแรก ผู้ติดตามรายการอย่างผมคิดว่า แมนฯ ยูไนเต็ด เล่นราวกับต้องการวัดกันให้ตายหงส์ตายห่านไปข้าง ด้วยอารมณ์ทำนองว่าชนะได้ก็ ‘เอานะ’ แพ้ก็ช่างหัวบุตรสาวยายมัน มิเช่นนั้นอาจเล่นเกมรับอย่างเต็มรูปแบบไปแล้ว

ขนาด 2 ประตูที่ได้ก็มาจากแผงหลังกับมิดฟิลด์ตัวรับ – คิดเอา
มันยังไม่ใช่แค่นี้
ข้างหลังขึ้นนำได้สำเร็จก็เปลี่ยนแปลงขั้นตอนการเล่นให้รัดกุมมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเล่นเกมยอมรับได้เหนียวแน่นมากมาย และไม่พลาดง่ายๆ
เรียกว่าเขี้ยวยาวลากดินอย่างยิ่งจริงๆ
แล้วก็ในเมื่อ แมนฯ ยูไนเต็ด ตกรอบตัดเชือกอย่างซ้ำซากอย่างงี้ มันก็คงจะช่วยทำให้พวกเขาแลเห็นความเป็นจริงว่า….
ถ้าเกิดเอ็งต้องการพุ่งเข้าชนแล้วก็วิ่งเข้าปรักปรำสำเร็จในฤดูกาลนี้เลย ขอความปรานีใช้ม.ค.ที่ตลาดลูกหนังเปิดให้มีประโยชน์ เพราะว่ามันขาดอีกเพียงแค่จุด 2 จุดเท่านั้นจะบริบูรณ์มากกว่านี้ !!!

แต่ละคนหุ่นเฟิร์มเป๊ะปังอลังเวอร์เซ็กซี่ ร้อนแรงจนฟิตเนสแทบลุกเป็นไฟ เทรนด์ผู้หญิงออกกำลังกาย อวดหุ่นเป๊ะ กำลังมาแรงมาก ๆ วันนี้เลยเอาใจหนุ่ม ๆ ที่ชอบสาวหุ่นดีกันสักหน่อย กับ 10 ดาราหุ่นเซ็กซี่ในชุดออกกำลังกาย หน้าท้องเนียนแซ่บ ร้อนแรงจนฟิตเนสแทบลุกเป็นไฟ จะมีใครหุ่นสวยและชอบออกกำลังกายบ้างมาดูกันเลย

10. แน๊ต เกศริน

ศิลปินดึงดูดใจขวัญใจคนแก่ ทุกชุด ทุกท่าทางการออกกำลังกายอัดแน่นไปด้วยความร้อนแรงยิ่งกว่าแดดตอนกลางวัน ยอมเลยแซ่บ
กว่านี้ไม่มีอีกแล้ว
9.โอซา แวง

ดีกรีสาวดึงดูดใจระดับเอเชีย 3 ปีซ้อนขนาดนี้ จะสวมชุดไหนก็ดูแซ่บไปหมด โดยเฉพาะชุดบริหารร่างกายที่ได้เห็นหน้าท้องแล้วก็หุ่นสุดเฟิร์ม บอกเลยคนนี้ไร้ที่ติเตียน
8.เกรซ กาญจน์เกล้า

ในส่วนความฟิตแอนด์เฟิร์ม หน้าท้องเป๊ะ ดึงดูดใจ สาวเกรซ นี่จัดว่าไม่เป็นสองรองคนไหนเลย เป็นอีกหนึ่งศิลปินสาวที่เลือกเดินทางนี้แล้วปังสุดๆ
7.ไอซ์ อภิษฎา

เอ๋ยถึงศิลปินดึงดูดใจในชุดบริหารร่างกาย ก็ทำให้คิดถึงภาพสาวไอซ์ ขึ้นมาโดยทันที ไม่ต้องนำเสนอเลยว่าหุ่นเป๊ะ แซ่บเว่อร์ขนาดไหน ให้ภาพเล่าเรื่องแทนเลยละกัน
6.เบลล่า ราณี

ต่อให้งานยุ่งขนาดไหน สาวเบลล่า ก็ไม่พลาดที่จะหาเวลามาบริหารร่างกาย พร้อมอวดหน้าท้องเฟิร์มกระชับให้ชายหนุ่มๆได้ตาโตวาวกัน เป็นความดึงดูดใจเบาๆที่ลำพองใจสุดๆ
5. วีเจขา ณัฐฐาวีรนุช

เรื่องหุ่นแซ่บ วีเจขา ก็จัดว่าไม่ธรรมดาเหมือนกัน เป็นความสตรองที่ดึงดูดใจแล้วก็สวยสดงดงามมากมายๆละสายตามิได้เลย ช่างทรมานดวงใจคนดูอย่างเรายิ่งนัก

4.ปู ไปรยา

ด้านสาวปู ก็งาม สตรอง ฟิต แอนด์ เฟิร์ม ตลอดระยะเวลาจริงๆแม้กระนั้นที่สะดุดตาแย่งซีนออกมา เห็นจะเป็นความดึงดูดใจของคุณนี่แหละ ปลดปล่อยออร่าเร่าร้อนจนกระทั่งฟิตเนสแทบจะลุกเป็นไฟเลย
3. ยิปซี คีความรัก

ขาดสาวยิปซี คนนี้ไปมิได้แน่ๆ เนื่องจากหุ่นคุณทั้งดึงดูดใจแล้วก็เพอร์เฟกต์สุดๆคนไหนที่บริหารร่างกายอยู่ข้างๆคงจะมีเสียสมาธิกันบ้างล่ะ
2.ใหม่ ดาวิกา

คนไหนว่าสาวใหม่ ไม่แซ่บ เคยได้เห็นคุณในชุดบริหารร่างกายกันหรือยัง แล้วจะทราบเลยว่าเดอะเบสต์ที่แท้จริงคืออะไร หุ่นสเลนเดอร์แล้วก็เป๊ะปังมากมายๆ

1.เบเบ้ ธันย์ชนกต้นแบบฟิตเนสไอดอลสุดที่รัก

การออกกำลังกายเป็นความรู้สึกนึกคิด ซึ่งสาวเบเบ้ เป็นคนที่ดูแลรูปร่างตัวเองดีเลิศๆหุ่นเฟิร์ม ทุกสัดส่วนมาเต็มเห็นกระจ่าง มีความคิดเห็นว่าคุณกำลังทำแชนแนลยูทูบ BEBE FIT ROUTINE อยู่ด้วย คนไหนอยากเห็นหุ่นสุดเป๊ะ หรืออยากดูวิธีบริหารร่างกายดีๆก็สามารถเข้าไปติดตามกันได้

อัพเดทล่าสุด! แอพพลิเคชั่น “หมอชนะ” เวอร์ชั่นปัจจุบัน (4 ม.ค. 64) ขออนุญาตเข้าถึง “ข้อมูลส่วนบุคคล” อะไรบ้าง หลังเกิดกระแสกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน และมีการแชร์ข้อมูลเก่าเมื่อปีที่แล้ว

ภายหลังจากเกิดการระบาดของวัววิด-19 ระลอกใหม่ในประเทศไทย ศูนย์บริหารเหตุการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อเชื้อไวรัสวัวโรทุ่งนา 2019 (ศบค.) ได้ประกาศขอความร่วมมือให้ประชากรให้ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น “แพทย์ชนะ” เพื่อความสบายสำหรับการติดตามข้อมูลการเดินทางของประชากรในกรณีที่ติดเชื้อโรค และถ้าผู้เจ็บป่วยที่มีสมาร์ทโฟนรองรับ แต่ว่ามิได้ดาวน์โหลดแอพแพทย์ชนะและปกปิดข้อมูลจะจัดว่ามีความผิด ทำให้คนประเทศไทยเยอะๆกลับมาสนใจแอพ แพทย์ชนะ กันอีกรอบ
แต่ กระแสตื่นตัวนี้มาพร้อมกับความตื่นตระหนก ด้วยเหตุว่าผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยหวาดหวั่นว่า แอพพลิเคชั่นดังที่กล่าวถึงมาแล้วบางทีอาจเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวมากเกินไปหรือเปล่า

นอกจากนั้น ในโลกออนไลน์ยังมีการแชร์อินโฟกราฟฟิกจากรายงานที่กรุงเทพธุรกิจเผยแพร่เมื่อเดือน มิ.ย. ปีที่แล้ว ชื่อ ทราบยัง ‘แพทย์ชนะ/MorChana’ ชนะ! เรื่องเข้าถึง ‘ข้อมูลส่วนตัว’ ซึ่งอ้างอิงจากผลงานวิจัยชื่อ “Privacy Sweep” เกี่ยวกับ “แอพพลิเคชั่นโทรศัพท์มือถือติดตามประชาชน” ใน 6 ประเทศอาเซียนรวมถึงไทย เมื่อเดือน พฤษภาคม 2563 ที่จัดทำโดย ดาต้า โปรเทคชัน เอ็กเซลเลนซ์ (Data Protection Excellence) หรือ DPEX โครงข่ายด้านการคุ้มครองป้องกันข้อมูลส่วนตัวซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในประเทศสิงคโปร์

ตอนนั้น ผลการศึกษาวิจัยดังที่กล่าวถึงมาแล้วซึ่งอิงจากการขอเข้าถึงข้อมูลของแอพแพทย์ชนะ เวอร์ชั่น 1.4 (19 เม.ย. 2563) พบว่า แพทย์ชนะเป็นแอพพลิเคชั่นติดตามประชาชนที่ขอเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวสูงที่สุด เมื่อเทียบกับแอพของเพื่อนบ้านอีก 5 ประเทศ

นอกจากนั้นยังพบว่า แพทย์ชนะขอเข้าถึงส่วนต่างๆในโทรศัพท์มือถือของผู้ใช้ ตั้งแต่ กล้องที่เอาไว้สำหรับถ่ายภาพ, เรื่องราวใช้งานอุปกรณ์และแอพ, ตำแหน่งผู้ใช้, ไมโครโฟน, คลังเก็บของรูปภาพ/คลิป/ไฟล์อื่นๆ, พื้นที่เก็บข้อมูล และข้อมูลการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไร้สาย หรือ Wi-Fi
แต่ แพทย์ชนะ เวอร์ชั่น 2.0.1 (4 ม.ค. 2564) มีการเปลี่ยนแปลงหัวข้อการขอเข้าถึงและการจัดเก็บข้อมูลแล้ว กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ เชื้อเชิญไปอัพเดทข้อมูลกันอีกรอบว่า เวอร์ชั่นปัจจุบันนี้มีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง
จากการสำรวจ “สิทธิ์ของแอพ” สำหรับการขอเข้าถึงข้อมูลของแพทย์ชนะ เวอร์ชั่น 2.0.1 ที่ระบุบนหน้าดาวน์โหลดแอพบน Google Play Store พบว่า มีการเปลี่ยนแปลงไม่มากเท่าไรนัก โดยหัวข้อเดียวที่หายไปจากเวอร์ชั่นเมื่อปีที่แล้วเป็น Record audio หรือการขอเข้าถึงไมค์โทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งปัจจุบันนี้ไม่มีอยู่แล้ว

ท่อนหัวข้ออื่นๆที่แอพแพทย์ชนะเคยขอเข้าถึงในเวอร์ชั่นเก่าเมื่อปีที่แล้วก็ยังคงมีอยู่ เช่น กล้องที่เอาไว้สำหรับถ่ายภาพ, เรื่องราวใช้งานอุปกรณ์และแอพ (เวอร์ชั่นนี้ใช้คำว่า เรียกแอพพลิเคชั่นสถานที่สำหรับทำงานอยู่), ตำแหน่งผู้ใช้, คลังเก็บของรูปภาพ/คลิป/ไฟล์อื่นๆ, พื้นที่เก็บข้อมูล และข้อมูลการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไร้สาย (เวอร์ชั่นนี้ใช้คำว่า ดูการเชื่อมต่อโครงข่าย)
เวลาที่เพจเฟซบุ๊ค แพทย์ชนะ โพสต์แจกแจงตอนวันที่ 7 ม.ค. ว่า แอพแพทย์ชนะเวอร์ชั่นปัจจุบันนี้ ขอเข้าถึงส่วนต่างๆของสมาร์ทโฟน เพื่อจุดหมายดังต่อไปนี้

1. กล้องถ่ายรูป (Camera)
เพื่อใช้ในการถ่ายรูปของผู้ใช้งาน เพื่อยืนยันว่าแอพนั้นเป็นของผู้ใช้งานจริง และใช้ในการสแกน QR Code ของ ไทยชนะ เพื่อทำการเช็คอินสถานที่

2. ตำแหน่งผู้ใช้ (Location)
เพื่อติดตามเส้นทางของผู้ใช้แอพ ซึ่งจะเป็นเครื่องมือให้กรมควบคุมโรคใช้ประกอบสำหรับการสอบสวนโรค และใช้ในการค้นหาว่า ผู้ใช้แอพอยู่ในสถานที่เสี่ยงในตอนวันและเวลา ร่วมกับผู้ติดเชื้อโรคหรือเปล่า เพื่อกรมควบคุมโรคจะได้ส่งข้อความแจ้งเตือน

3. คลังเก็บของรูปภาพ (Picture)
แอพจะเก็บรูปถ่ายของผู้ใช้งานไว้ที่เครื่องของผู้ใช้งานเอง และจะไม่มีการเก็บรูปถ่ายไว้ที่ Server ส่วนกลางของระบบแต่อย่างใด

4. พื้นที่เก็บข้อมูล (Store)
ในกรณีที่โทรศัพท์มือถือไม่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแอพพลิเคชั่นจะเก็บข้อมูลเส้นทางการเดินทางไว้ภายในโทรศัพท์เคลื่อนที่ก่อน เมื่อเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้แล้ว แอพจะส่งข้อมูลไปจัดเก็บที่ระบบส่วนกลาง
ดังนี้ ไม่มีการเก็บข้อมูลส่วนตัว เป็นต้นว่า ชื่อ นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ อีเมล ที่อยู่ และอื่นๆในแอพพลิเคชั่นและระบบส่วนกลาง ในทุกกรณี
ส่วนเรื่องความเป็นส่วนตัว แอพแพทย์ชนะไม่ขอข้อมูลส่วนตัวอะไรก็แล้วแต่ไม่ว่าจะเป็นชื่อหรือเลขบัตรประชาชน การลงทะเบียนเป็นแบบไม่ระบุตัวตน (Anonymous) และมีการก่อตั้งผู้ตัดสินอิสระเพื่อสำรวจกระบวนการจัดการข้อมูล ให้เป็นไปตาม พ.ร.บ. ป้องกันข้อมูลส่วนตัว พ.ศ. 2562

ข้อจำกัดการจัดเก็บข้อมูลของแพทย์ชนะเป็น เมื่อผ่านวิกฤติการณ์วัววิด-19 แล้ว ข้อมูลทั้งปวงจะถูกทำลายทิ้งโดยทันทีอีกทั้งการโค้ดแอพยังมีลักษณะเป็น โอเพ่นซอร์ส (Open Source) เพื่อโปร่งใส สำรวจได้ และไม่ยุ่งยากต่อการส่งต่อไปยังระบบอื่นๆเพื่อขยายผลถัดไปอีกด้วย

สำหรับแอพ แพทย์ชนะ ถือกำเนิดขึ้นด้วยความร่วมมือระหว่างภาครัฐนำโดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) สำนักงานปรับปรุงรัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ สพร. และกระทรวงสาธารณสุข กับภาคเอกชน นำโดยกลุ่มผู้พัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์อิสระ ในชื่อ “Code for Public” และกลุ่มผู้ชำนาญด้านการพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์

เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ทำเสียบอลมากที่สุดใน 1 นัดซีซั่นนี้ ก่อน ลิเวอร์พูล แพ้ เซาแธมป์ตัน จนไม่ชนะในพรีเมียร์ลีก 3 นัดติด
วันที่ 5 เดือนมกราคม 64 ควันหลงฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดู 2020-2021 คู่ท้ายที่สุดของนัดหมายที่ 17 ซึ่ง “แชมป์เก่า” หงส์แดง บุกไปแพ้ เซาแธมป์ตัน แบบกลับการคาดการณ์ 0-1 ทำให้เดี๋ยวนี้ “ลิเวอร์พูล” ยังรั้งจ่าฝูง แต่มี 33 คะแนนพอๆกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชั้น 2 ที่แข่งขันน้อยกว่า 1 นัดหมาย เพียงแค่ประตูได้-เสียของ “อสุรกายแดง” ยังด้อยกว่า (หงส์แดง +16 / แมนยูฯ +9)
หลังจบเกม เดลี เมล์ สื่อดังของอังกฤษเปิดเผยสถิติที่ไม่น่าจำของ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ตัวบุกปีกขวาทีมชาติอังกฤษของ หงส์แดง ซึ่งก่อความผิดพลาดหลายครั้งจนถึงถูก เยอร์เกน คลอปป์ ที่ปรึกษาชาวเยอรมันถอดออกในนาทีที่ 77 แล้วส่ง เจมส์ มิลเนอร์ ลงไปแทน
มูลเหตุเพราะเกมนี้ เทรนต์ ทำให้ “ลิเวอร์พูล” จะต้องทิ่มอลให้กับ “นักบุญ” ถึง 38 ครั้ง เยอะที่สุดในนัดหมายเดียวเหนือผู้เล่นทุกคนในช่วงฤดูกาลนี้ และหากนับเฉพาะค่าถัวเฉลี่ยในแมตช์นี้จัดว่าจอมบุกวัย 22 ปีทำให้ทีมจะต้องทิ่มอลทุกๆ2 นาทีอย่างยิ่งจริงๆ
เทรนต์ ยังเป็นผู้เล่นที่ครองสถิติทำให้ทีมทิ่มอลมากที่สุดต่อ 1 นัดหมายในประวัติศาสตร์ของพรีเมียร์ลีก โดยทำไว้ถึง 49 ครั้ง ในเกมพบ เลสเตอร์ สิตี้ เมื่อซีซั่นที่แล้ว

อันดับ 10 Irene (Bae Joo Hyun)

อันดับ 9 Jisoo BLACKPINK

อันดับ 8 Rosé BLACKPINK

อันดับ 7 Sakura Miyawaki

อันดับ 6 Zhao Liying

อันดับ 5 Jennie BLACKPINK

อันดับที่ 4 Dilireba

อันดับ 3 Angelababy

อันดับ 2 Moon Byul

อันดับ 1 Lisa BLACKPINK

เซเรีย อา : เอซี มิลาน – ยูเวนตุส

บอลกัลโช เซเรีย อา คู่ 02.45 หัวหน้าฝูง เอซี มิลาน ขาดผู้เล่นตัวหลักคนไม่ใช่น้อย ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ยังไม่หายจากการบาดเจ็บ และก็ทีมเพิ่งจะมาขาด อันเต้ เรบิช และก็ ราเด้ ครูนิช ที่ติดเชื้อโรควัววิด-19 เกมนี้ ดาวิเด้ ค้างลาเบรีย ขยับมายืนกลางคู่ ฟรองค์ เกสสิเย แนวรุก ซามู กาสตีเญโฆ, ฮาคาน ชัลฮาโนลู, เยนส์ เพ็ตเตอร์ เฮาเก้ และก็ ราฟาเอล เลเอา เป็นหน้าเป้า
ทางฝั่งยูเวนเหม็นตุสของอันเดรีย ปิร์โล ไม่มี อเล็กซ์ ซานโดร และก็ ฮวน กัวดราโด้ ที่ติดเชื้อโรควัววิด-19 ด้วยเหมือนกัน เลโอนาร์โด้ โบนุชชี จับคู่แนวรับกับ มัตไธส์ เดอ ลิกต์ แนวรุก เฟเดริโก้ เคียซา เล่นขอบเส้นคนละฝั่งกับ อารอน แรมซีย์ โดยคู่กองหน้ายังเป็น เปาโล ดีบาลา และก็ คริสเตียโน โรนัลโด้
เจ้าบ้านเกือบจะได้ประตูขึ้นนำนาทีที่ 6 จากจังหวะที่ โรดริโก้ เบนตันกูร์ ครองบอลในเชตโทษไม่ระวังโดน ซามู กาสตีเญโฆ ฉกไปได้ซัดจ่อๆเสาแรกติดเซฟ วอยเชียค เชสนี
ยูเวนเหม็นตุสได้ลุ้นนาที 14 จากลูกวอลเลย์หน้ากรอบจุดโทษของ เฟเดริโก้ เคียซา ได้กดด้วยขวาบอลติดไซด์ก้อยไปชนเสาอย่างโชคร้าย

Goal! ทีมเยือนได้ประตูขี้นนำนาที 18 เฟเดริโก้ เคียซา ครองบอลทางขอบเส้นฝั่งขวาก่อนฝากเข้ากึ่งกลางให้ เปาโล ดีบาลา จับก่อนไขว้หลังกลับมาให้ เคียซา หลุดไปกดด้วยขวาแทงเสาสอง ยูเวนนเหม็นตุส ออกนำ 1-0
มิลานได้ลุ้นอีกทีนาที 26 เยนส์ เพ็ตเตอร์ เฮาเก้ ได้บอลหน้าจุดโทษก่อนจ่ายตัดข้างหลังแบ็คให้ ราฟาเอล เลเอา ใส่มากมายดด้วยซ้ายแต่ว่า วอยเชียค เชสนี ก็ยังเซฟไว้ได้

Goal! เจ้าบ้านได้ประตูตีเสมอนาที 42 จากจังหวะที่ ฮาคาน ชัลฮาโนลู ปะทะแย่งบอลจาก อาเดรียง ราบิโอต์ มาได้ก่อนบอลทิ้งมาที่ ราฟาเอล เลเอา หลุดมาด้านซ้ายก่อนไหลเข้าในให้ ดาวิเด้ ค้างลาเบรีย กดด้วยขวาตุงตาข่าย มิลาน ตีเสมอ 1-1

Goal! ครึ่งหลังทีมเยือนได้ประตูขึ้นนำอีกทีนาที 62 จากคู่คิดเดิม เปาโล ดีบาลา ไหลบอลให้ เฟเดริโก้ เคียซา จี๋เข้าหาจุดโทษก่อนยิงด้วยขวาบอลพุ่งแทงเสาสอง ยูเวนเหม็นตุสนำ 2-1

Goal! ยูเวได้ประตูลำดับที่สามนาที 76 จากสองตัวสำรอง เดจนกระทั่ง คูลูเซฟสกี้ ลากบอลมาทางกราบขวาเข้าจุดโทษก่อนเฉือนเข้ากึ่งกลางให้ เวสตัน แม็คเคนนี ยิงโล่งเตียนๆไม่พลาด ยูเวนเหม็นตุสนำ 3-1

จบเกม ยูเวนเหม็นตุส เอาชนะ เอซี มิลาน 3-1 เก็บเพิ่มเป็น 30 คะแนนรั้งชั้น 4 และก็แข่งน้อยกว่าทีมอื่นหนึ่งนัดหมาย ระหว่างที่ มิลาน พ่ายนัดแรกมี 37 คะแนนเหมือนเดิมรั้งหัวหน้าฝูง

รายนามนักเตะทั้งสองทีม

เอซี มิลาน (4-2-3-1) : จานลุยจิ ดอนทุ่งนารุมมา; ดิโอโก้ ดาโลต์, ซิมง เคียร์, อเลสสิโอ โรมันโญลี, เตโอ เครื่องปรับอากาศกน็องเดซ; ดาวิเด้ ค้างลาเบรีย, ฟรองค์ เกสสิเย; ซามู กาสตีเญโฆ , ฮาคาน ชัลฮาโนลู, เยนส์ เพ็ตเตอร์ เฮาเก้; ราฟาเอล เลเอา
ตัวสำรอง : ชิเปรียน ตาตารูซานู, อันเดรีย คอนติเตียน, มาเตโอ มูซัคคิโอ, ปิเครื่องปรับอากาศ ค้างลูลู, ดาเนียล มัลดินี, ลอเรนโซ วัวลอมโบ้, เลโอ มองอาร์เต้, อันโตนิโอ ดอนทุ่งนารุมมา, มาร์โก ฟริเกริโอ, บราฮิม ดิอาส
ยูเวนเหม็นตุส (4-4-2) : วอยเชียค เชสนีย์; ดานิโล, เลโอนาร์โด้ โบนุชชี, มัตไธส์ เดอ ลิกต์, จานลูก้า ฟราบ็อตต้า; เฟเดริโก้ เคียซา, โรดริโก้ เบนตันกูร์, อาเดรียง ราบิโอต์, อารอน แรมซีย์; เปาโล ดีบาลา, คริสเตียโน โรนัลโด้
ตัวสำรอง : เมริห์ เดมิรัล, คาร์โล ปินโซโญ, มาร์โก ดา กราก้า, อเลสซานโดร ดิ ขว้างร์โด้, เฟเดริโก้ แบร์ทุ่งนาร์เดสคี, มาโนโล ปอร์ตาโนวา, นิโกโล ฟาจิออลี, จานลุยจิ บุฟฟอน, จอร์โจ้ คิเอลลินี, เวสตัน แม็คเคนนี, อาร์ตูร์ เมโล, เดจนกระทั่ง คูลูเซฟสกี้